"อว. เผยฉีดวัคซีนทั่วโลกแล้ว 2,158 ล้านโดส ใน 197 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 58.365 ล้านโดส ไทยฉีดแล้วมากกว่า 4.63 ล้านโดส"
➡️(8 มิถุนายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 2,158 ล้านโดส ใน 197 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 38 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่าอิสราเอลได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมเกินครึ่งของประชากรแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 303 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 140 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 58.365 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (35.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 29.616 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 4,634,941 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 40.8%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 2,158 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 777.88 ล้านโดส (27.8% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. สหรัฐอเมริกา จำนวน 302.85 ล้านโดส (47.3%)
3. สหภาพยุโรป จำนวน 272.20 ล้านโดส (30.7%)
4. อินเดีย จำนวน 235.94 ล้านโดส (8.6%)
2. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (65.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm )
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (62.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (61.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. อิสราเอล (58.6% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
5. สหราชอาณาจักร (51.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
6. ชิลี (50.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. กาตาร์ (48.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech)
8. ฮังการี (47.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
9. สหรัฐอเมริกา (47.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Johnson&Johnso
10. อุรุกวัย (43.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer และ Sinovac)
3. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 58.12%
2. อเมริกาเหนือ 17.3%
3. ยุโรป 16.6%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.06%
5. แอฟริกา 1.65%
6. โอเชียเนีย 0.27%
4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 58,365,521 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 29,616,507 โดส (5.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
2. ฟิลิปปินส์ จำนวน 6,096,208 โดส (2.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V และ AstraZeneca
3. กัมพูชา จำนวน 4,938,642 โดส (14.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
4. ไทย จำนวน 4,634,941 โดส (3.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
5. สิงคโปร์ จำนวน 4,047,651 โดส (35.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna
6. มาเลเซีย จำนวน 3,638,812 โดส (5.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 2,994,900 โดส (2.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
8. เวียดนาม จำนวน 1,340,098 โดส (0.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
9. ลาว จำนวน 1,000,196 โดส (6.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V
10. บรูไน จำนวน 57,566 โดส (6.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
5. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 8 มิถุนายน 2564
จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 6,686,413 โดส
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 4,634,941 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 3,243,913 โดส (4.9% ของประชากร)
-เข็มสอง 1,391,028 โดส (2.1% ของประชากร)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.