"อว. เผยฉีดวัคซีนทั่วโลกแล้ว 2,198 ล้านโดส ใน 199 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 60.207 ล้านโดส ไทยฉีดแล้วมากกว่า 5.107 ล้านโดส"
➡️(9 มิถุนายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 2,198 ล้านโดส ใน 197 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 35.4 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่าอิสราเอลได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมเกินครึ่งของประชากรแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 304 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 140 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 60.207 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (37.3% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 30.155 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 5,107,069 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 39.8%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 2,198 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 794.13 ล้านโดส (28.4% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. สหรัฐอเมริกา จำนวน 303.92 ล้านโดส (47.4%)
3. สหภาพยุโรป จำนวน 275.86 ล้านโดส (31.0%)
4. อินเดีย จำนวน 238.84 ล้านโดส (8.7%)
2. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (65.2% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm )
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (62.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (61.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. อิสราเอล (58.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
5. สหราชอาณาจักร (51.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
6. ชิลี (51.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. กาตาร์ (48.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech)
8. ฮังการี (47.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
9. สหรัฐอเมริกา (47.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Johnson&Johnso
10. อุรุกวัย (43.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer และ Sinovac)
3. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 58.22%
2. อเมริกาเหนือ 17.27%
3. ยุโรป 16.51%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.03%
5. แอฟริกา 1.69%
6. โอเชียเนีย 0.28%
4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 60,207,212 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 30,155,028 โดส (5.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
2. ฟิลิปปินส์ จำนวน 6,314,548 โดส (2.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V และ AstraZeneca
3. ไทย จำนวน 5,107,069 โดส (3.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
4. กัมพูชา จำนวน 5,005,585 โดส (14.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
5. สิงคโปร์ จำนวน 4,392,067 โดส (37.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna
6. มาเลเซีย จำนวน 3,790,121 โดส (5.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 2,994,900 โดส (2.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
8. เวียดนาม จำนวน 1,354,856 โดส (0.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
9. ลาว จำนวน 1,034,588 โดส (7.0%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V
10. บรูไน จำนวน 58,450 โดส (6.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
5. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2564
จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 6,756,493 โดส
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 5,107,069 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 3,672,372 โดส (5.55% ของประชากร)
-เข็มสอง 1,434,697 โดส (2.17% ของประชากร)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.