"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 28 กรกฎาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 16,427,059 โดส และทั่วโลกแล้ว 3,935 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 147.33 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ ภูเก็ต โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 74.7%”
➡️(27 กรกฎาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 3,935 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 35.4 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 343 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 163 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 147.33 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (72.3% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 64.83 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 28 กรกฎาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 16,427,059 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 52.18%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 3,935 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 28 กรกฎาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 16,427,059 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 12,714,312 โดส (19.2% ของประชากร)
-เข็มสอง 2 3,712,747 โดส (5.6% ของประชากร)
2. จำนวนวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 28 ก.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 16,427,059 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 231,706 โดส/วัน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 724,812 โดส
- เข็มที่ 2 79,752 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 7,154,634 โดส
- เข็มที่ 2 239,760 โดส
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 4,834,866 โดส
- เข็มที่ 2 3,393,235 โดส
3. รายงานผู้มีอาการข้างเคียงภายหลังได้รับการฉีดวัคซีน
- 96.33% ไม่มีผลข้างเคียง
- 3.67% มีผลข้างเคียงไม่รุนแรง ประกอบด้วย
- ปวดกล้ามเนื้อ 0.88%
- ปวดศีรษะ 0.65%
- ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่ฉีด 0.47%
- เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 0.43%
- ไข้ 0.29%
- คลื่นไส้ 0.20%
- ท้องเสีย 0.13%
- ผื่น 0.11%
- ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง 0.08%
- อาเจียน 0.05%
- อื่น ๆ 0.38%
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 113.9% เข็มที่2 98.7%
- อสม เข็มที่1 44.8% เข็มที่2 20.7%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 20.9% เข็มที่2 1.3%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 25.4% เข็มที่1 4.5%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 44.6% เข็มที่2 26.5%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 23.2% เข็มที่2 6.6%
รวม เข็มที่1 25.4% เข็มที่2 7.4%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 41.4% เข็มที่2 10.5% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 57.1% เข็มที่2 12.9%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 26.7% เข็มที่2 13.0%
- นนทบุรี เข็มที่1 29% เข็มที่2 10.0%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 28.9% เข็มที่2 5.2%
- ปทุมธานี เข็มที่1 20.8% เข็มที่2 4.8%
- นครปฐม เข็มที่1 13.1% เข็มที่2 2.8%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 11% เข็มที่2 3.8%
- ภูเก็ต เข็มที่1 74.7% เข็มที่2 59.2%
- ระนอง เข็มที่1 34.8% เข็มที่2 10.0%
- สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 18.6% เข็มที่2 7.4%
- เกาะสมุย เข็มที่1 32.2% เข็มที่2 9.2%
- เกาะเต่า เข็มที่1 18.7% เข็มที่2 5.6%
- เกาะพะงัน เข็มที่1 23.4% เข็มที่2 3.3%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 147,334,670 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 64,838,074 โดส (16.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 18,393,347 โดส (38.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 18,174,405 โดส (10.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 16,427,059 โดส (19.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 11,528,264 โดส (41%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
6. สิงคโปร์ จำนวน 7,376,969 โดส (72.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
7. เวียดนาม จำนวน 5,013,175 โดส (4.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 1,933,275 โดส (14.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 150,102 โดส (28.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 64.77%
2. อเมริกาเหนือ 12.31%
3. ยุโรป 14.60%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.37%
5. แอฟริกา 1.60%
6. โอเชียเนีย 0.35%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 1,565.87 ล้านโดส (55.9% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 445.84 ล้านโดส (16.3%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 342..61 ล้านโดส (53.5%)
4. บราซิล จำนวน 134.65 ล้านโดส (33%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (77.9% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (77.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (72.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. อุรุกวัย (66.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
5. ชิลี (66.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
6. กาตาร์ (66.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
7. สิงคโปร์ (64.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
8. แคนาดา (64.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
9. สหราชอาณาจักร (63%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
10. อิสราเอล (61.5%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.