"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 29 กรกฎาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 16,591,329 โดส และทั่วโลกแล้ว 3,980 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 150.24 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ ภูเก็ต โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 74.9%”
➡️(29 กรกฎาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 3,980 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 37.7 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 343 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 164 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 150.24 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (72.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 65.959 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 16,591,329 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 52.31%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 3,980 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 29 กรกฎาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 16,591,329 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 12,858,570 โดส (19.4% ของประชากร)
-เข็มสอง 2 3,732,759 โดส (5.6% ของประชากร)
2. จำนวนวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 29 ก.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 16,591,329 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 215,233 โดส/วัน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 743,667 โดส
- เข็มที่ 2 95,242 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 7,248,015 โดส
- เข็มที่ 2 241,398 โดส
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 4,866,888 โดส
- เข็มที่ 2 3,396,119 โดส
3. รายงานผู้มีอาการข้างเคียงภายหลังได้รับการฉีดวัคซีน
- 96.44% ไม่มีผลข้างเคียง
- 3.56% มีผลข้างเคียงไม่รุนแรง ประกอบด้วย
- ปวดกล้ามเนื้อ 0.86%
- ปวดศีรษะ 0.64%
- ปวด บวม แดง ร้อน บริเวณที่ฉีด 0.46%
- เหนื่อย อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 0.41%
- ไข้ 0.28%
- คลื่นไส้ 0.19%
- ท้องเสีย 0.12%
- ผื่น 0.10%
- ปวดกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้ออ่อนแรง 0.08%
- อาเจียน 0.05%
- อื่น ๆ 0.37%
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 113.9% เข็มที่2 98.7%
- อสม เข็มที่1 44.9% เข็มที่2 20.7%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 21.2% เข็มที่2 1.3%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 25.7% เข็มที่1 4.6%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 44.7% เข็มที่2 26.5%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 23.6% เข็มที่2 6.7%
รวม เข็มที่1 25.7% เข็มที่2 7.5%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 43.1% เข็มที่2 10.3% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 60.0% เข็มที่2 13.3%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 27.0% เข็มที่2 13.0%
- นนทบุรี เข็มที่1 29.6% เข็มที่2 10.1%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 29.4% เข็มที่2 5.3%
- ปทุมธานี เข็มที่1 21.3% เข็มที่2 5.2%
- นครปฐม เข็มที่1 13.7% เข็มที่2 2.9%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 11.0% เข็มที่2 3.8%
- ภูเก็ต เข็มที่1 74.9% เข็มที่2 59.2%
- ระนอง เข็มที่1 35.1% เข็มที่2 10.3%
- สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 18.9% เข็มที่2 7.5%
- เกาะสมุย เข็มที่1 33.6% เข็มที่2 9.4%
- เกาะเต่า เข็มที่1 18.8% เข็มที่2 5.6%
- เกาะพะงัน เข็มที่1 24.7% เข็มที่2 3.4%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 150,248,011 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 65,959,164 โดส (16.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 18,946,048 โดส (39.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 18,709,017 โดส (10.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 16,591,329 โดส (18.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 11,670,617 โดส (41.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
6. สิงคโปร์ จำนวน 7,426,314 โดส (72.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
7. เวียดนาม จำนวน 5,321,839 โดส (4.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 1,967,107 โดส (15.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 156576 โดส (29.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 64.93%
2. อเมริกาเหนือ 12.22%
3. ยุโรป 14.51%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.38%
5. แอฟริกา 1.60%
6. โอเชียเนีย 0.36%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 1,583.36 ล้านโดส (56.5% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 450.26 ล้านโดส (16.5%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 343.36 ล้านโดส (53.7%)
4. บราซิล จำนวน 136.62 ล้านโดส (33.4%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (78.4% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (77.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (72.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. อุรุกวัย (67.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
5. ชิลี (66.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
6. กาตาร์ (66.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
7. สิงคโปร์ (64.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
8. แคนาดา (64.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
9. สหราชอาณาจักร (63.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
10. เดนมาร์ก (62.0%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.