"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 10 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 21,171,110 โดส และทั่วโลกแล้ว 4,481 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 186.890 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ ภูเก็ต โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 75.9%”
➡️(10 สิงหาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 4,481 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 42.7 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 352 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 167 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 186.890 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (74.2% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 76.93 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 10 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 21,171,110 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 53.93%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 4,481 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 10 สิงหาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 21,171,110 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 16,336,743 โดส (24.7% ของประชากร)
-เข็มสอง 4,566,345 โดส (6.9% ของประชากร)
-เข็มสาม 268,022 โดส (0.4% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 10 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 21,171,110 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 501,330 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 424,612 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 6,830,715 โดส
- เข็มที่ 2 3,438,420 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 8,331,186 โดส
- เข็มที่ 2 714,202 โดส
- เข็มที่ 3 185,029 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 1,141,623 โดส
- เข็มที่ 2 400,101 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 33,219 โดส
- เข็มที่ 2 13,622 โดส
- เข็มที่ 3 82,993 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 117.0% เข็มที่2 100.9% เข็มที่3 37.5%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 49.7% เข็มที่2 29.5% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 53.1% เข็มที่2 23.5% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 33.6% เข็มที่1 5.7% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 29.7% เข็มที่2 8.5% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 31.3% เข็มที่2 2.1% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 1.3% เข็มที่2 0.1% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 32.7% เข็มที่2 9.1% เข็มที่3 0.5%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 51.9% เข็มที่2 12.1% เข็มที่3 0.5% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 72.0% เข็มที่2 15.7% เข็มที่3 0.7%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 32.1% เข็มที่2 13.3% เข็มที่3 0.3%
- นนทบุรี เข็มที่1 33.8% เข็มที่2 11.3% เข็มที่3 0.4%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 33.9% เข็มที่2 6.5% เข็มที่3 0.4%
- ปทุมธานี เข็มที่1 29.0% เข็มที่2 6.5% เข็มที่3 0.2%
- นครปฐม เข็มที่1 18.4% เข็มที่2 4.4% เข็มที่3 0.4%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 15.1% เข็มที่2 4.8% เข็มที่3 0.3%
- ภูเก็ต เข็มที่1 75.9% เข็มที่2 60.1% เข็มที่3 0.6%
- ระนอง เข็มที่1 42.4% เข็มที่2 12.6% เข็มที่3 0.3%
- สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 22.3% เข็มที่2 8.7% เข็มที่3 0.2%
- พังงา เข็มที่1 42.3% เข็มที่2 11.4% เข็มที่3 0.4%
- กระบี่ เข็มที่1 23.6% เข็มที่2 7.2% เข็มที่3 0.3%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 35.4% เข็มที่2 4.6% เข็มที่3 0.5%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 186,890,474 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 76,933,946 โดส (18.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 25,008,230 โดส (48.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 24,990,042 โดส (12.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 21,171,110 โดส (24.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 14.259,583 โดส (48.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
6. เวียดนาม จำนวน 9,987,587 โดส (9.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,229,571 โดส (74.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 2,620,478 โดส (18.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 189,927 โดส (33.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 66.22%
2. อเมริกาเหนือ 11.47%
3. ยุโรป 13.73%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.46%
5. แอฟริกา 1.74%
6. โอเชียเนีย 0.38%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 1,782.53 ล้านโดส (63.7% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 508.66 ล้านโดส (18.6%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 351.93 ล้านโดส (55.2%)
4. บราซิล จำนวน 152.99 ล้านโดส (37.4%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (81.3% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (79.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (79.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. สิงคโปร์ (74.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
5. กาตาร์ (70.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
6. อุรุกวัย (69.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. ภูฏาน (67.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. แคนาดา (67.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
9. ชิลี (67.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
10. เดนมาร์ก (66.9%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.