"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 11 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 21,717,954 โดส และทั่วโลกแล้ว 4,517 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 191.06 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 73.1%”
➡️(11 สิงหาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 4,517 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 41 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 353 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 167 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 191.06 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (74.3% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 78.16 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 21,717,954 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 54.09%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 4,517 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 21,717,954 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 16,701,428 โดส (25.2% ของประชากร)
-เข็มสอง 4,692,030 โดส (7.1% ของประชากร)
-เข็มสาม 324,496 โดส (0.5% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 10 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 21,717,954 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 546,844 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 448,551 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 7,049,501 โดส
- เข็มที่ 2 3,440,752 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 8,427,674 โดส
- เข็มที่ 2 800,451 โดส
- เข็มที่ 3 187,535 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 1,186,674 โดส
- เข็มที่ 2 434,906 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 37,460 โดส
- เข็มที่ 2 15,921 โดส
- เข็มที่ 3 136,961 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 117.6% เข็มที่2 101.4% เข็มที่3 45.6%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 50.2% เข็มที่2 29.9% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 53.9% เข็มที่2 24% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 34.3% เข็มที่1 5.9% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 30.5% เข็มที่2 8.8% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 32% เข็มที่2 2.3% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 1.5% เข็มที่2 0.1% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 33.4% เข็มที่2 9.4% เข็มที่3 0.6%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 52.7% เข็มที่2 12.3% เข็มที่3 0.6% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 73.1% เข็มที่2 15.9% เข็มที่3 0.9%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 33% เข็มที่2 13.4% เข็มที่3 0.4%
- นนทบุรี เข็มที่1 34.2% เข็มที่2 11.6% เข็มที่3 0.4%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 34.2% เข็มที่2 6.6% เข็มที่3 0.4%
- ปทุมธานี เข็มที่1 29.8% เข็มที่2 6.7% เข็มที่3 0.2%
- นครปฐม เข็มที่1 19.3% เข็มที่2 4.7% เข็มที่3 0.4%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 15.5% เข็มที่2 5.0% เข็มที่3 0.4%
- ชลบุรี เข็มที่1 26.6% เข็มที่2 8.5% เข็มที่3 0.8%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 15.1% เข็มที่2 3.8% เข็มที่3 0.2%
- สงขลา เข็มที่1 21% เข็มที่2 6.4% เข็มที่3 0.7%
- ยะลา เข็มที่1 23.4% เข็มที่2 7.4% เข็มที่3 0.5%
- ปัตตานี เข็มที่1 18.6% เข็มที่2 5.7% เข็มที่3 0.2%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 36.1% เข็มที่2 4.8% เข็มที่3 0.5%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 191,063,036 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 778,162,340 โดส (19%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 25,366,211 โดส (49.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 24,990,042 โดส (12.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 21,717,954 โดส (25.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 14.903,020 โดส (56.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
6. เวียดนาม จำนวน 11,341,864 โดส (10.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,271,200 โดส (74.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 2,620,478 โดส (18.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 189,927 โดส (33.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 66.19%
2. อเมริกาเหนือ 11.42%
3. ยุโรป 13.79%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.49%
5. แอฟริกา 1.73%
6. โอเชียเนีย 0.38%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 1,782.53 ล้านโดส (63.7% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 514.50 ล้านโดส (18.8%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 352.55 ล้านโดส (55.1%)
4. บราซิล จำนวน 154.95 ล้านโดส (37.9%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 102.91 ล้านโดส (40.8%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (82.6% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. บาห์เรน (80.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (80%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
4. สิงคโปร์ (74.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
5. กาตาร์ (71.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
6. อุรุกวัย (70%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. ภูฏาน (67.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. แคนาดา (67.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
9. เดนมาร์ก (67.5%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
10. ชิลี (67.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.