"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 12 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 22,288,819 โดส และทั่วโลกแล้ว 4,566 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 195.18 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 74.1%”
➡️(12 สิงหาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 4,566 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 39.1 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 353 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 167 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 195.18 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (75.9% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 78.51 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 12 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 22,288,819 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 54.20%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 4,566 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 12 สิงหาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 22,288,819 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 17,068,105 โดส (25.8% ของประชากร)
-เข็มสอง 4,826,641 โดส (7.3% ของประชากร)
-เข็มสาม 394,073 โดส (0.6% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 12 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 22,288,819 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 570,865 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 475,302 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 7,276,652 โดส
- เข็มที่ 2 3,443,314 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 8,526,768 โดส
- เข็มที่ 2 892,320 โดส
- เข็มที่ 3 190,288 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 1,222,497 โดส
- เข็มที่ 2 472,509 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 42,188 โดส
- เข็มที่ 2 18,498 โดส
- เข็มที่ 3 203,785 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 118.4% เข็มที่2 102.0% เข็มที่3 55.3%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 50.6% เข็มที่2 30.2% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 54.7% เข็มที่2 24.7% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 35.2% เข็มที่1 6.2% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 31.2% เข็มที่2 9.0% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 32.8% เข็มที่2 2.5% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 1.6% เข็มที่2 0.1% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 34.1% เข็มที่2 9.7% เข็มที่3 0.8%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 53.6% เข็มที่2 12.5% เข็มที่3 0.8% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 74.1% เข็มที่2 16.1% เข็มที่3 1.1%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 33.7% เข็มที่2 13.5% เข็มที่3 0.5%
- นนทบุรี เข็มที่1 35.2% เข็มที่2 11.7% เข็มที่3 0.5%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 34.7% เข็มที่2 6.8% เข็มที่3 0.4%
- ปทุมธานี เข็มที่1 30.5% เข็มที่2 6.8% เข็มที่3 0.3%
- นครปฐม เข็มที่1 19.9% เข็มที่2 4.8% เข็มที่3 0.4%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 15.9% เข็มที่2 5.2% เข็มที่3 0.5%
- ชลบุรี เข็มที่1 27.4% เข็มที่2 8.8% เข็มที่3 0.8%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 15.6% เข็มที่2 4.0% เข็มที่3 0.3%
- สงขลา เข็มที่1 21.5% เข็มที่2 6.7% เข็มที่3 0.9%
- ยะลา เข็มที่1 24.3% เข็มที่2 7.5% เข็มที่3 0.6%
- ปัตตานี เข็มที่1 18.9% เข็มที่2 5.8% เข็มที่3 0.3%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 37.0% เข็มที่2 5.0% เข็มที่3 0.5%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 195,188,048 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 78,512,091 โดส (19%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. ฟิลิปปินส์ จำนวน 26,127,502 โดส (12.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
3. มาเลเซีย จำนวน 25,863,563 โดส (50%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
4. ไทย จำนวน 22,288,819 โดส (25.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 15.265,222 โดส (55.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
6. เวียดนาม จำนวน 12,098,821 โดส (11.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,458,968 โดส (75.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 2,871,621 โดส (20.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 201,441 โดส (35.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 66.46%
2. อเมริกาเหนือ 11.34%
3. ยุโรป 13.62%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.46%
5. แอฟริกา 1.74%
6. โอเชียเนีย 0.38%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 1,808.09 ล้านโดส (64.6% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 519.08 ล้านโดส (19.0%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 353.21 ล้านโดส (55.2%)
4. บราซิล จำนวน 155.43 ล้านโดส (38.0%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 105.68 ล้านโดส (41.9%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (83.4% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. บาห์เรน (80.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (80.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
4. สิงคโปร์ (75.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
5. กาตาร์ (71.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
6. อุรุกวัย (70.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. ชิลี (68.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
8. ภูฏาน (68.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. เดนมาร์ก (68.0%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
10. แคนาดา (67.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.