"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 29 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 30,679,289 โดส และทั่วโลกแล้ว 5,203 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 248.83 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 89.3%”
➡️(29 สิงหาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 5,203 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 39.9 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 368 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 173 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 248.83 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (76.6% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 96.51 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 30,679,289 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 56.48%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 5,203 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 29 สิงหาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 30,679,289 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 22,807,078 โดส (34.5% ของประชากร)
-เข็มสอง 7,287,885 โดส (11% ของประชากร)
-เข็มสาม 584,326 โดส (0.9% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 29 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 30,679,289 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 258,782 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 549,587 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 10,425,986 โดส
- เข็มที่ 2 3,466,607 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 9,718,252 โดส
- เข็มที่ 2 2,811,992 โดส
- เข็มที่ 3 208,187 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 2,376,871 โดส
- เข็มที่ 2 967,498 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 285,969 โดส
- เข็มที่ 2 41,788 โดส
- เข็มที่ 3 376,139 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.4% เข็มที่2 107.9% เข็มที่3 82.1%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 55.5% เข็มที่2 34.8% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 64% เข็มที่2 31.8% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 40.7% เข็มที่1 9% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 45% เข็มที่2 14.8% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 43.4% เข็มที่2 6.6% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 7.2% เข็มที่2 0.7% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 45.6% เข็มที่2 14.6% เข็มที่3 1.2%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 67.2% เข็มที่2 17.1% เข็มที่3 1.2% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 89.5% เข็มที่2 21.6% เข็มที่3 1.8%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 42.5% เข็มที่2 17.9% เข็มที่3 0.6%
- นนทบุรี เข็มที่1 42.6% เข็มที่2 15.2% เข็มที่3 0.7%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 48.4% เข็มที่2 10.9% เข็มที่3 0.6%
- ปทุมธานี เข็มที่1 47.9% เข็มที่2 11.1% เข็มที่3 0.5%
- นครปฐม เข็มที่1 29.4% เข็มที่2 7.3% เข็มที่3 0.7%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 22.4% เข็มที่2 8.3% เข็มที่3 1%
- ชลบุรี เข็มที่1 39.4% เข็มที่2 14% เข็มที่3 1.0%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 30.9% เข็มที่2 7.4% เข็มที่3 0.4%
- สงขลา เข็มที่1 31.3% เข็มที่2 9.9% เข็มที่3 1.2%
- ยะลา เข็มที่1 33.5% เข็มที่2 10.3% เข็มที่3 0.7%
- ปัตตานี เข็มที่1 25.3% เข็มที่2 7.7% เข็มที่3 0.5%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 51% เข็มที่2 10.6% เข็มที่3 0.6%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 248,830,250 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 96,512,676 โดส (22.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 33,724,744 โดส (58.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 31,433,450 โดส (16.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 30,679,289 โดส (34.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 19,368,228 โดส (61.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
6. เวียดนาม จำนวน 19,151,122 โดส (17.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,799,507 โดส (76.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า จำนวน 4,683,410 โดส (5.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 4,182,234 โดส (32.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 295,590 โดส (47.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 67.47%
2. ยุโรป 12.73%
3. อเมริกาเหนือ 10.63%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.83%
5. แอฟริกา 1.9%
6. โอเชียเนีย 0.44%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,019.55 ล้านโดส (72.1% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 622.99 ล้านโดส (22.8%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 367.91 ล้านโดส (57.5%)
4. บราซิล จำนวน 187.64 ล้านโดส (45.7%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 124.53 ล้านโดส (49.3%)
6. เยอรมนี จำนวน 101.17 ล้านโดส (60.9%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (91.8% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (83.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (83.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. กาตาร์ (78.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
5. อุรุกวัย (78%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
6. สิงคโปร์ (76.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
7. ชิลี (74.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
8. อิสราเอล (73.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. เดนมาร์ก (73.6%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
10. จีน (72.1%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.