"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 31 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 31,771,819 โดส และทั่วโลกแล้ว 5,269 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 255.27 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 90.4%”
➡️(31 สิงหาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 5,269 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 41 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 370 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 174 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 255.27 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (76.6% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 98.96 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 31,771,819 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 56.57%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 5,269 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 31,771,819 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 23,401,465 โดส (35.4% ของประชากร)
-เข็มสอง 7,780,973 โดส (11.8% ของประชากร)
-เข็มสาม 589,381 โดส (0.9% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 31 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 31,771,819 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 817,342 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 594,196 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 10,758,603 โดส
- เข็มที่ 2 3,469,706 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 9,778,844 โดส
- เข็มที่ 2 3,246,755 โดส
- เข็มที่ 3 209,155 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 2,538,731 โดส
- เข็มที่ 2 1,012,722 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 325,287 โดส
- เข็มที่ 2 51,790 โดส
- เข็มที่ 3 380,226 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.3% เข็มที่2 108.7% เข็มที่3 82.8%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 55.8% เข็มที่2 36% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 64.7% เข็มที่2 33.6% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 42% เข็มที่1 10.2% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 46.2% เข็มที่2 15.2% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 44.7% เข็มที่2 8.4% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 7.9% เข็มที่2 0.8% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 46.8% เข็มที่2 15.6% เข็มที่3 1.2%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 68.3% เข็มที่2 17.8% เข็มที่3 1.2% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 90.4% เข็มที่2 22.4% เข็มที่3 1.8%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 43.6% เข็มที่2 18.7% เข็มที่3 0.6%
- นนทบุรี เข็มที่1 43.6% เข็มที่2 15.8% เข็มที่3 0.7%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 49.8% เข็มที่2 11.5% เข็มที่3 0.6%
- ปทุมธานี เข็มที่1 49.6% เข็มที่2 12.1% เข็มที่3 0.5%
- นครปฐม เข็มที่1 30.1% เข็มที่2 7.9% เข็มที่3 0.7%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 23.2% เข็มที่2 9% เข็มที่3 0.7%
- ชลบุรี เข็มที่1 41% เข็มที่2 15.1% เข็มที่3 1.0%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 33% เข็มที่2 7.8% เข็มที่3 0.5%
- สงขลา เข็มที่1 31.8% เข็มที่2 10.5% เข็มที่3 1.2%
- ยะลา เข็มที่1 34.8% เข็มที่2 11% เข็มที่3 0.7%
- ปัตตานี เข็มที่1 25.8% เข็มที่2 8.3% เข็มที่3 0.5%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 52.4% เข็มที่2 12% เข็มที่3 0.6%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 255,273,613 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 98,966,499 โดส (22.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 34,507,805 โดส (60%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 33,099,392 โดส (17.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 31,771,819 โดส (35.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 19,762,485 โดส (63.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
6. เวียดนาม จำนวน 19,151,122 โดส (17.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,817,825 โดส (76.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า จำนวน 4,683,410 โดส (5.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 4,205,037 โดส (32.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 308,219 โดส (49.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 67.62%
2. ยุโรป 12.64%
3. อเมริกาเหนือ 10.57%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.79%
5. แอฟริกา 1.93%
6. โอเชียเนีย 0.45%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,044.63 ล้านโดส (73% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 634.38 ล้านโดส (23.2%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 369.56 ล้านโดส (57.8%)
4. บราซิล จำนวน 189.06 ล้านโดส (46%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 127.42 ล้านโดส (50.5%)
6. เยอรมนี จำนวน 101.41 ล้านโดส (61%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (91.8% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (84.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (83.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. กาตาร์ (79%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
5. อุรุกวัย (78.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
6. สิงคโปร์ (76.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
7. ชิลี (74.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
8. อิสราเอล (74.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. เดนมาร์ก (73.8%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
10. จีน (73%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.