"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 1 กันยายน ฉีดวัคซีนแล้ว 32,600,001 โดส และทั่วโลกแล้ว 5,312 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 261.24 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 91%”
➡️(1 กันยายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 5,312 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 40.3 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 370 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 174 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 261.24 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (76.6% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 100.28 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 1 กันยายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 32,600,001 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 56.56%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 5,312 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 1 กันยายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 32,600,001 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 23,795,098 โดส (36% ของประชากร)
-เข็มสอง 8,212,750 โดส (12.4% ของประชากร)
-เข็มสาม 592,153 โดส (0.9% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 1 ก.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 32,600,001 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 828,182 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 628,906 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 11,000,562 โดส
- เข็มที่ 2 3,633,248 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 9,819,425 โดส
- เข็มที่ 2 3,633,248 โดส
- เข็มที่ 3 210,001 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 2,630,250 โดส
- เข็มที่ 2 1,049,068 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 344,861 โดส
- เข็มที่ 2 59,133 โดส
- เข็มที่ 3 382,152 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.4% เข็มที่2 109.5% เข็มที่3 83.2%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 56% เข็มที่2 36.9% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 65.2% เข็มที่2 35% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 43.1% เข็มที่1 11.1% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 47% เข็มที่2 16.1% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 45.5% เข็มที่2 9.8% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 8.5% เข็มที่2 0.8% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 47.6% เข็มที่2 16.4% เข็มที่3 1.2%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 68.9% เข็มที่2 18.6% เข็มที่3 1.2% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 91% เข็มที่2 23.3% เข็มที่3 1.8%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 44.3% เข็มที่2 19.3% เข็มที่3 0.6%
- นนทบุรี เข็มที่1 43.8% เข็มที่2 16.2% เข็มที่3 0.7%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 50.6% เข็มที่2 12.1% เข็มที่3 0.6%
- ปทุมธานี เข็มที่1 50.7% เข็มที่2 12.7% เข็มที่3 0.5%
- นครปฐม เข็มที่1 30.6% เข็มที่2 8.3% เข็มที่3 0.7%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 23.7% เข็มที่2 9.5% เข็มที่3 0.7%
- ชลบุรี เข็มที่1 42.2% เข็มที่2 15.7% เข็มที่3 1.0%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 34.4% เข็มที่2 8.2% เข็มที่3 0.5%
- สงขลา เข็มที่1 32.2% เข็มที่2 11.2% เข็มที่3 1.2%
- ยะลา เข็มที่1 35.4% เข็มที่2 11.5% เข็มที่3 0.7%
- ปัตตานี เข็มที่1 26.1% เข็มที่2 8.7% เข็มที่3 0.5%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 53.4% เข็มที่2 13% เข็มที่3 0.6%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 261,246,459 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 100,288,175 โดส (23.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 34,774,055 โดส (60.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 33,706,295 โดส (17.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 32,600,001 โดส (36%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. เวียดนาม จำนวน 19,966,724 โดส (17.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
6. กัมพูชา จำนวน 19,944,222 โดส (63.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,830,778 โดส (76.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า จำนวน 6,529,600 โดส (5.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 4,278,784 โดส (33.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 327,825 โดส (52.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 67.70%
2. อเมริกาเหนือ 10.51%
3. ยุโรป 12.60%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.81%
5. แอฟริกา 1.93%
6. โอเชียเนีย 0.45%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,055.97 ล้านโดส (73.4% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 640.53 ล้านโดส (23.4%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 370.21 ล้านโดส (57.9%)
4. บราซิล จำนวน 191.50 ล้านโดส (46.6%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 128.76 ล้านโดส (51%)
6. เยอรมัน จำนวน 102 ล้านโดส (64%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (92.1% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (84.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (83.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. กาตาร์ (79.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
5. อุรุกวัย (79.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
6. สิงคโปร์ (76.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
7. อิสราเอล (75.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. ชิลี (74.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
9. เดนมาร์ก (74.1%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
10. จีน (73.4%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.