"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 3 กันยายน ฉีดวัคซีนแล้ว 34,292,537 โดส และทั่วโลกแล้ว 5,397 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 267.55 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 92.2%”
➡️(3 กันยายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 5,397 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 41 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 372 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 175 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 267.55 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (76.7% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 102.38 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 3 กันยายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 34,292,537 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 56.82%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 5,397 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 3 กันยายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม34,292,537 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 24,542,140 โดส (37.1% ของประชากร)
-เข็มสอง 9,152,799 โดส (13.8% ของประชากร)
-เข็มสาม 597,598 โดส (0.9% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 3 ก.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 34,292,537 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 865,074 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 683,967 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 11,429,798 โดส
- เข็มที่ 2 3,473,963 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 9,909,643 โดส
- เข็มที่ 2 4,460,784 โดส
- เข็มที่ 3 211,345 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 2,838,629 โดส
- เข็มที่ 2 1,148,530 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 364,070 โดส
- เข็มที่ 2 69,522 โดส
- เข็มที่ 3 386,253 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 123.6% เข็มที่2 110.6% เข็มที่3 83.9%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 56.5% เข็มที่2 38.4% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 66% เข็มที่2 37.4% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 44.6% เข็มที่1 13% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 48.7% เข็มที่2 17.7% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 46.8% เข็มที่2 12.5% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 9.1% เข็มที่2 1% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 49.1% เข็มที่2 18.3% เข็มที่3 1.2%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 70.2% เข็มที่2 20.7% เข็มที่3 1.2% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 92.2% เข็มที่2 26.3% เข็มที่3 1.8%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 52.3% เข็มที่2 13.6% เข็มที่3 0.6%
- นนทบุรี เข็มที่1 52.2% เข็มที่2 13.9% เข็มที่3 0.5%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 45.9% เข็มที่2 20.6% เข็มที่3 0.6%
- ปทุมธานี เข็มที่1 44.4% เข็มที่2 17.6% เข็มที่3 0.7%
- นครปฐม เข็มที่1 32.1% เข็มที่2 9% เข็มที่3 0.7%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 24.7% เข็มที่2 10.6% เข็มที่3 0.7%
- ชลบุรี เข็มที่1 77% เข็มที่2 68.2% เข็มที่3 1.2%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 55.1% เข็มที่2 14.4% เข็มที่3 0.6%
- สงขลา เข็มที่1 48.4% เข็มที่2 27.8% เข็มที่3 0.8%
- ยะลา เข็มที่1 46% เข็มที่2 27.5% เข็มที่3 0.7%
- ปัตตานี เข็มที่1 44.1% เข็มที่2 16.9% เข็มที่3 1%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 37.5% เข็มที่2 14.3% เข็มที่3 0.8%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 267,550,038 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 102,385,008 โดส (23.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 35,519,754 โดส (61.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ไทย จำนวน 34,292,537 โดส (37.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 34,112,320 โดส (18.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. เวียดนาม จำนวน 20,542,325 โดส (18.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
6. กัมพูชา จำนวน 20,277,465 โดส (64.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,855,835 โดส (76.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า จำนวน 6,872,232 โดส (8.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 4,354,163 โดส (34.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 338,399 โดส (52.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 67.84%
2. อเมริกาเหนือ 10.42%
3. ยุโรป 12.47%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.84%
5. แอฟริกา 1.97%
6. โอเชียเนีย 0.46%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,076.43 ล้านโดส (74.2% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 663.04 ล้านโดส (24.2%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 372.12 ล้านโดส (58.2%)
4. บราซิล จำนวน 195.52 ล้านโดส (47.5%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 132.03 ล้านโดส (52.3%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (92.3% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (85.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (84%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. อุรุกวัย (80.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
5. กาตาร์ (80.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
6. สิงคโปร์ (76.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
7. อิสราเอล (76.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
8. ชิลี (76.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
9. เดนมาร์ก (74.3%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
10. จีน (74.2%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.