อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 25 กันยายน ฉีดวัคซีนแล้ว 48,626,224 โดส และทั่วโลกแล้ว 6,108 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 353.47 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 98.9%”
➡️(25 กันยายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 6,108 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 32.6 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 388 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 183 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 353.47 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (77.9% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 134.2 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 26 กันยายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 48,626,224 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 58.59%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 6,108 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 25 กันยายน 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 48,626,224 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 30,295,450 โดส (45.8% ของประชากร)
-เข็มสอง 17,230,670 โดส (26% ของประชากร)
-เข็มสาม 1,100,104 โดส (1.7% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 25 ก.ย. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 48,626,224 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 1,329,799 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 676,686 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 14,886,303 โดส
- เข็มที่ 2 3,503,698 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 10,296,214 โดส
- เข็มที่ 2 10,696,945 โดส
- เข็มที่ 3 621,868 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 4,688,039 โดส
- เข็มที่ 2 2,553,788 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 424,894 โดส
- เข็มที่ 2 476,239 โดส
- เข็มที่ 3 478,236 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 124% เข็มที่2 117.2% เข็มที่3 87.9%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 60.6% เข็มที่2 47.6% เข็มที่3 3.6%
- อสม เข็มที่1 70.4% เข็มที่2 53% เข็มที่3 2.8%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 57% เข็มที่1 30.6% เข็มที่3 0.5%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 62% เข็มที่2 33.6% เข็มที่3 1.2%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 56.1% เข็มที่2 30.8% เข็มที่3 0.1%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 13% เข็มที่2 7.4% เข็มที่3 0.1%
รวม เข็มที่1 60.6% เข็มที่2 34.5% เข็มที่3 2.2%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 77.8% เข็มที่2 39.5% เข็มที่3 3% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 98.9% เข็มที่2 46.9% เข็มที่3 4.5%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 61.4% เข็มที่2 32.8% เข็มที่3 1%
- นนทบุรี เข็มที่1 62.3% เข็มที่2 33.1% เข็มที่3 1.2%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 58.5% เข็มที่2 34.9% เข็มที่3 1.8%
- ปทุมธานี เข็มที่1 49.3% เข็มที่2 32.9% เข็มที่3 1.5%
- นครปฐม เข็มที่1 39.6% เข็มที่2 22% เข็มที่3 1.3%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 32.8% เข็มที่2 19.9% เข็มที่3 1.1%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 62.8% เข็มที่2 30.5% เข็มที่3 0.7%
- ชลบุรี เข็มที่1 61.9% เข็มที่2 33.1% เข็มที่3 1.4%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 51.3% เข็มที่2 23.6% เข็มที่3 0.5%
- เพชรบุรี เข็มที่1 45.2% เข็มที่2 31.1% เข็มที่3 1%
- ยะลา เข็มที่1 44.7% เข็มที่2 22.6% เข็มที่3 1.1%
- สงขลา เข็มที่1 39.2% เข็มที่2 24.4% เข็มที่3 1.4%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 353,470,305 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 134,207,308 (31.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. ไทย จำนวน 28,626,224 โดส (45.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 43,088,582 โดส (21.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. มาเลเซีย จำนวน 41,847,256 (69.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
5. เวียดนาม จำนวน 36,793,910 โดส (30.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
6. กัมพูชา จำนวน 24,584,763 โดส (76.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 9,742,585 โดส (11.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 9,223,226 โดส (77.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 4,912,775 โดส (39.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 443,676 โดส (61.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 68.61%
2. ยุโรป 11.6%
3. อเมริกาเหนือ 9.92%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.03%
5. แอฟริกา 2.3%
6. โอเชียเนีย 0.54%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,194.47 ล้านโดส (78.4% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 850.37 ล้านโดส (31.1%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 388.57 ล้านโดส (60.7%)
4. บราซิล จำนวน 229.18 ล้านโดส (55.5%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 156.56 ล้านโดส (62%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (97.4% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (92%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. อุรุกวัย (87.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. บาห์เรน (85.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
5. คิวบา (85.6%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
6. กาตาร์ (83.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
7.. ชิลี (82%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
8. อิสราเอล (82%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. จีน (78.4%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac และ CanSino)
10. สิงคโปร์ (77.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มา : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.