"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 95,616,058 โดส และทั่วโลกแล้ว 8,221 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 690.5 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (118.3%)
➡️(7 ธันวาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 8,221 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 37 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 462 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 197 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 690.5 ล้านโดส โดยบูรไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (91.8% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 243.1 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 95,616,058 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.75%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 8,221 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 7 ธันวาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 95,616,058 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 49,308,940 โดส (74.5% ของประชากร)
-เข็มสอง 42,527,505 โดส (64.3% ของประชากร)
-เข็มสาม 3,770,613 โดส (5.7% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-7 ธ.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 95,616,058 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 178,314 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 4422,524 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,690,550 โดส
- เข็มที่ 2 3,561,177 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,071,123 โดส
- เข็มที่ 2 27,074,222 โดส
- เข็มที่ 3 2,552,518 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,340,661 โดส
- เข็มที่ 2 6,859,095 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 5,865,006 โดส
- เข็มที่ 2 4,940,619 โดส
- เข็มที่ 3 955,195 โดส
วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 341,602 โดส
- เข็มที่ 2 92,392 โดส
- เข็มที่ 3 281,900 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 122.5% เข็มที่2 119.3% เข็มที่3 94.4%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่3 64.4% เข็มที่2 61.7% เข็มที่3 20.4%
- อสม เข็มที่1 78.3% เข็มที่2 74.1% เข็มที่3 16.7%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 75.8% เข็มที่2 68.1% เข็มที่3 4.4%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 65.9% เข็มที่2 55.4% เข็มที่3 4.6%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 72.2% เข็มที่2 63.3% เข็มที่3 1.3%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 19.4% เข็มที่2 15.6% เข็มที่3 0.3%
- นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 71.3% เข็มที่2 64.4% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 68.5% เข็มที่2 59% เข็มที่3 5.2%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 118.3% เข็มที่2 104.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83.2% เข็มที่2 73.7%
2. ชลบุรี เข็มที่1 90.9% เข็มที่2 83.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 78.2% เข็มที่2 73.1%
3. ภูเก็ต เข็มที่1 86.9% เข็มที่2 83.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74.1% เข็มที่2 71.4%
4. เชียงใหม่ เข็มที่1 85.6% เข็มที่2 70.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 91.6% เข็มที่2 75.5%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 81.4% เข็มที่2 68.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 95.5% เข็มที่2 86.9%
6. ระนอง เข็มที่1 78.9% เข็มที่2 69.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 75.9% เข็มที่2 72.1%
7. ระยอง เข็มที่1 74.6% เข็มที่2 64.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.6% เข็มที่2 72.7%
8. พังงา เข็มที่1 73.7% เข็มที่2 69.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.4% เข็มที่2 64.1%
9. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 71.7% เข็มที่2 60.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 80.9% เข็มที่2 73.9%
10. กระบี่ เข็มที่1 70.1% เข็มที่2 64.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.1% เข็มที่2 73.7%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 68.7% เข็มที่2 61.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 71.9% เข็มที่2 66.3%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 67% เข็มที่2 60.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 67.7% เข็มที่2 62.5%
13. ตราด เข็มที่1 65.5% เข็มที่2 59.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 67.7% เข็มที่2 64.3%
14. บุรีรัมย์ เข็มที่1 60.3% เข็มที่2 52.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 80.7% เข็มที่2 69.3%
15. เลย เข็มที่1 58.2% เข็มที่2 49.5% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74.4% เข็มที่2 65.1%
16. อุดรธานี เข็มที่1 57.7% เข็มที่2 49.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 82.7% เข็มที่2 74.2%
17. หนองคาย เข็มที่1 55.1% เข็มที่2 47.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70.4% เข็มที่2 63.9%
รวม เข็มที่1 88.9% เข็มที่2 78.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 81.7% เข็มที่2 73%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 690,542,746 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 243,116,796 (51.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 127,828,796 โดส (75.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ไทย จำนวน 95,616,058 โดส (74.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
4. ฟิลิปปินส์ จำนวน 92,752,986 โดส (48.3 %* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
5. มาเลเซีย จำนวน 54,197,452 โดส (79.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. กัมพูชา จำนวน 30,147,223 โดส (83.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 28,707,770 โดส (30.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (87%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 7,330,175 โดส (55.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 762,161 โดส (91.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.52%
2. ยุโรป 10.37%
3. อเมริกาเหนือ 9.11%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.37%
5. แอฟริกา 3.05%
6. โอเชียเนีย 0.6%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,553.03 ล้านโดส (182.4% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,287.74 ล้านโดส (94.2%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 462.26 ล้านโดส (139.2%)
4. บราซิล จำนวน 314.61 ล้านโดส (149.7%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 243.12 ล้านโดส (88.1%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (252.5%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (217.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. มัลดีฟส์ (208.6% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
4. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (204.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
5. บาห์เรน (200.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
6. อุรุกวัย (194.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. จีน (182.4%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
8. อิสราเอล (179.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
9. กาตาร์ (179.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
10. กัมพูชา (178.3%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, AstraZeneca/Oxford และ J&J)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มา : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.