"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2564 ฉีดวัคซีนแล้ว 100,171,841 โดส และทั่วโลกแล้ว 8,750 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 739.9 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (119.8%)
➡️(21 ธันวาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 8,750 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 39.6 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 495 ล้านโด ส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 204 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 739.9 ล้านโดส โดยบูรไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.4% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 259.4 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 100,171,841 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 61.91%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 8,750 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 21 ธันวาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 100,171,841 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 50,604,144 โดส (76.5% ของประชากร)
-เข็มสอง 44,487,133 โดส (67.2% ของประชากร)
-เข็มสาม 5,080,564 โดส (7.7% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.-21 ธ.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 100,171,841 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 273,326 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 359,695 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,778,066 โดส
- เข็มที่ 2 3,570,822 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,314,433 โดส
- เข็มที่ 2 27,649,877 โดส
- เข็มที่ 3 2,678,864 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,419,248 โดส
- เข็มที่ 2 7,025,054 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 6,556,659 โดส
- เข็มที่ 2 5,957,404 โดส
- เข็มที่ 3 1,633,599 โดส
วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 536,738 โดส
- เข็มที่ 2 283,976 โดส
- เข็มที่ 3 768,101 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 122.1% เข็มที่2 119.1% เข็มที่3 95.7%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 64.4% เข็มที่2 62.1% เข็มที่3 22.6%
- อสม เข็มที่1 78.7% เข็มที่2 75.1% เข็มที่3 19.1%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่ 77% เข็มทเข็มที่2 69.9% เข็มที่3 6.3%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 67.9% เข็มที่3 58.4% เข็มที่3 6.7%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มทีา 74.2% เข็มที่ 65.4% เข็มที่3 2.8%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 20.3% เข็มที่ 16.5% เข็มที่3 0.5%
- นักเรียน/นักศึกษา อายุ 12-17 ปี เข็มที่1 73.7% เข็มที่2 68.2% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 70.2% เข็มที่2 61.8% เข็มที่3 7.1%
5. %การฉีดวัคซีนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว
1. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 119.8% เข็มที่2 107.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 83.6% เข็มที่2 74.9%
2. ชลบุรี เข็มที่1 92.5% เข็มที่2 85.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.4% เข็มที่2 75.7%
3. เชียงใหม่ เข็มที่1 88.4% เข็มที่2 78.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 94% เข็มที่2 83.9%
4. ภูเก็ต เข็มที่1 87.4% เข็มที่2 84.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 74.5% เข็มที่2 71.8%
5. สมุทรปราการ เข็มที่1 82.7% เข็มที่2 70.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 96.2% เข็มที่2 88.1%
6. ระนอง เข็มที่1 81.2% เข็มที่2 73.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.6% เข็มที่2 72.8%
7. ระยอง เข็มที่1 77.1% เข็มที่2 70.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 77.2% เข็มที่2 73.9%
8. พังงา เข็มที่1 74.3% เข็มที่2 71.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 69.8% เข็มที่2 66%
9. สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 74.2% เข็มที่2 64.8% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 84.4% เข็มที่2 76.7%
10. กระบี่ เข็มที่1 70.9% เข็มที่2 65.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 79.5% เข็มที่2 74.8%
11. ประจวบคีรีขันธ์ เข็มที่1 69.9% เข็มที่2 63.7% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 72.8% เข็มที่2 67.5%
12. เพชรบุรี เข็มที่1 69.3% เข็มที่2 61.6% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 71.2% เข็มที่2 63.6%
13. ตราด เข็มที่1 66.5% เข็มที่2 62.2% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 68.7% เข็มที่2 65.9%
14. บุรีรัมย์ เข็มที่1 60.7% เข็มที่2 54.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 81.1% เข็มที่2 71.6%
15. เลย เข็มที่1 60.3% เข็มที่2 51.4% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 76.9% เข็มที่2 66.6%
16. อุดรธานี เข็มที่1 59.2% เข็มที่2 51.3% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 84.2% เข็มที่2 75.2%
17. หนองคาย เข็มที่1 56.2% เข็มที่2 47.9% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 70.9% เข็มที่2 64.1%
รวม เข็มที่1 90.5% เข็มที่2 81.1% และประชากร 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 82.8% เข็มที่2 74.9%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 739,918,802 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 259,424,131 (55.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 139,458,125 โดส (77.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 101,656,199 โดส (50.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 100,171,841 โดส (76.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 56,034,257 โดส (79.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 33,548,501 โดส (36.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 30,958,202 โดส (84.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 10,083,329 โดส (87%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 7,793.711 โดส (60%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 790,506 โดส (94.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.41%
2. ยุโรป 10.47%
3. อเมริกาเหนือ 9.09%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.23%
5. แอฟริกา 3.21%
6. โอเชียเนีย 0.59%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 2,695.18 ล้านโดส (192.5% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,388.52 ล้านโดส (101.5%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 495.1 ล้านโดส (149.1%)
4. บราซิล จำนวน 325.59 ล้านโดส (154.9%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 259.42 ล้านโดส (94%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (258.8%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. ชิลี (224.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac
3. มัลดีฟส์ (210.9% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
4. บาห์เรน (210.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
5. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (207.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
6. อุรุกวัย (196.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. เดนมาร์ก (194%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
8. จีน (192.5%) (ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sinovac, CanSino และ Anhui)
9. สหราชอาณาจักร (190.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ AstraZeneca/Oxford)
10. เกาหลีใต้ (186.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มา : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.