"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ฉีดวัคซีนแล้ว 120,009,906 โดส และทั่วโลกแล้ว 10,380 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 932.1 ล้านโดส โดยกรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ฉีดวัคซีนเข็ม 1 มากสุด (112.4%)
➡️(14 กุมภาพันธ์ 2565) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 10,380 ล้านโดส ใน 205 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 28.1 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 547 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 214 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 932.1 ล้านโดส โดยบรูไนฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (94.9% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 331.2 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 120,009,906 โดส
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 10,380 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2565
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 119,463,313 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 52,793,091 โดส (79.8% ของประชากร)
-เข็มสอง 49,229,204 โดส (74.4% ของประชากร)
-เข็มสาม 17,987,611 โดส (27.2% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ. 64 – 14 ก.พ. 65 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 120,009,906 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 276,153 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 416,446 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 22,887,142 โดส
- เข็มที่ 2 3,598,511 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 13,817,385 โดส
- เข็มที่ 2 28,355,099 โดส
- เข็มที่ 3 4,656,294 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 7,528,654 โดส
- เข็มที่ 2 7,220,636 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 7,833,191 โดส
- เข็มที่ 2 9,270,123 โดส
- เข็มที่ 3 10,541,462 โดส
วัคซีน Moderna
- เข็มที่ 1 726,719 โดส
- เข็มที่ 2 784,835 โดส
- เข็มที่ 3 2,790,855 โดส
4. 10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรสูงที่สุด
1. ภูเก็ต เข็มที่1 90% เข็มที่2 87.1% เข็มที่3 74.3%
2. กรุงเทพมหานคร เข็มที่1 112.4% เข็มที่2 104.1% เข็มที่3 54.6%
3. นนทบุรี เข็มที่1 81.8% เข็มที่2 78.2% เข็มที่3 52.5%
4. สมุทรปราการ เข็มที่1 91.2% เข็มที่2 80.1% เข็มที่3 46.7%
5. ลำพูน เข็มที่1 80.4% เข็มที่2 76.2% เข็มที่3 37.1%
6. อยุธยา เข็มที่1 73.3% เข็มที่2 70.9% เข็มที่3 36.4%
7. ระยอง เข็มที่1 83.7% เข็มที่2 79.8% เข็มที่3 34%
8. ชลบุรี เข็มที่1 82.3% เข็มที่2 78.6% เข็มที่3 31.1%
9. นครปฐม เข็มที่1 76.4% เข็มที่2 75.7% เข็มที่3 31.1%
10. ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 81% เข็มที่2 69.1% เข็มที่3 29.1%
10 จังหวัดที่มีการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ครอบคลุมประชากรต่ำที่สุด
1. นราธิวาส เข็มที่1 55.4% เข็มที่2 44.7% เข็มที่3 5.8%
2. ปัตตานี เข็มที่1 56.4% เข็มที่2 45.3% เข็มที่3 5.9%
3. บึงกาฬ เข็มที่1 63% เข็มที่2 55.7% เข็มที่3 7.9%
4. ยะลา เข็มที่1 62.5% เข็มที่2 52.2% เข็มที่3 8.3%
5. หนองบัวลำภู เข็มที่1 62.8% เข็มที่2 57.1% เข็มที่3 9.4%
6. สตูล เข็มที่1 63.9% เข็มที่2 59.8% เข็มที่3 10.2%
7. กาฬสินธุ์ เข็มที่1 65.3% เข็มที่2 59.9% เข็มที่3 10.6%
8. แม่ฮ่องสอน เข็มที่1 57.4% เข็มที่2 47.1% เข็มที่3 10.6%
9. สกลนคร เข็มที่1 65% เข็มที่2 58.7% เข็มที่3 11.4%
10. อำนาจเจริญ เข็มที่1 69.2% เข็มที่2 64.7% เข็มที่3 11.9%
5. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 932,105,266 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 331,211,718 โดส (68.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. เวียดนาม จำนวน 185,731,134 โดส (81.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
3. ฟิลิปปินส์ 129,633,511 โดส (54.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 120,009,906 โดส (79.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. มาเลเซีย จำนวน 65,042,686 โดส (80.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
6. พม่า จำนวน 42,555,469 โดส (41.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
7. กัมพูชา จำนวน 34,829,685 โดส (85%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
8. สิงคโปร์ จำนวน 13,049,391 โดส (92%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
9. ลาว จำนวน 9,062,481 โดส (65.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 979,285 โดส (94.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร อย่างน้อย 1 เข็ม
3. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 69.50%
2. ยุโรป 10.35%
3. อเมริกาเหนือ 8.77%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 7.20%
5. แอฟริกา 3.55%
6. โอเชียเนีย 0.63%
4. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 3,036.71 ล้านโดส (214.7% ของจำนวนโดสที่ฉีดต่อประชากร)
2. อินเดีย จำนวน 1,729.56 ล้านโดส (125.5%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 547.15ล้านโดส (163.2%)
4. บราซิล จำนวน 377.63 ล้านโดส (178.3%)
5. อินโดนีเซีย จำนวน 331.21 ล้านโดส (120.1%)
5. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. คิวบา (306%) (ฉีดวัคซีนของ Abdala และ Soberana02)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (257.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. ชิลี (243.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
4. บาห์เรน (229.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
5. มัลดีฟส์ (229.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
6. เกาหลีใต้ (228.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech J&J AstraZeneca/Oxford และ Moderna)
7. กาตาร์ (226.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderma)
8. เดนมาร์ก (225.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ J&J)
9. บรูไน (222.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm)
10. สิงคโปร์ (221.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มา : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.