☢️บอร์ดพลังงานนิวเคลียร์สั่งระดมทุกภาคส่วนติดตามและตรวจสอบวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 อย่างเข้มงวด☢️
ที่ประชุมคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์สั่งให้ระดมทุกภาคส่วนติดตามและตรวจสอบวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 อย่างเข้มงวดรวมทั้งให้ประเมินความเสี่ยงและปริมาณสารกัมมันตรังสีที่สูญหาย ตรวจ 70 พนักงานเสี่ยงทั้งปัสสาวะและเลือด ประวัตย้อนหลัง 1 เดือนไม่พบการเจ็บป่วยจากสารกัมมันตรังสี ขณะที่ ปส.ตรวจวัดปริมาณกัมมันตรังสีในอากาศ 18 จุด ในน้ำ 5 จุดทั่วประเทศทุกวัน พบปกติทุกจุด ดึงจุฬาฯ ร่วมตรวจสอบด้วย
เมื่อวันที่ 21 มี.ค.เวลา 8.00 น.ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล มีการประชุมคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ มอบหมายให้ ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานการประชุม โดยมีผู้แทนระดับสูงจากกระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ รวมถึงผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนจังหวัดปราจีนบุรีเข้าร่วม
หลังการประชุม ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ เปิดเผยว่า คณะกรรมการฯ ได้รับทราบการรายงานสรุปสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเมื่อจังหวัดปราจีนบุรีและศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางนิวเคลียร์และรังสี สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ได้รับแจ้งเหตุกรณีวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 สูญหายจากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล บ.เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี ก็ได้เข้าปฏิบัติการในพื้นที่เข้าตรวจสอบโดยละเอียดด้วยเครื่องมือวัดทางรังสี ในพื้นที่เกิดเหตุร่วมกับสถานประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยได้ระดมการค้นหาอย่างต่อเนื่องกว่า 1 สัปดาห์ และเมื่อวันที่ 19 มี.ค. ก็ได้ตรวจพบวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียมฯ ในโรงงานหลอมเหล็กแห่งหนึ่งใน จ.ปราจีนบุรี โดยพบเขม่าหรือฝุ่นแดงที่ปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีฯ แต่ไม่พบวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียมที่เป็นแท่งต้นเหตุที่สูญหาย รวมทั้งไม่พบว่าเหล็กที่หลอมไปแล้วมีการปนเปื้อน ทั้งนี้ได้เก็บตัวอย่าง น้ำ ดิน ในบริเวณโรงงานโดยรอบมาวิเคราะห์และไม่พบว่าปนเปื้อน ขณะที่การตรวจวัดระดับรังสีไม่พบการฟุ้งกระจายในอากาศ ในอาคาร และไม่มีการปนเปื้อนออกมาภายนอก ซึ่งขณะนี้สารกัมมันตรังสีซีเซียมฯ ถูกบรรจุในถุงบิ๊กแบ็ค ซึ่งถูกควบคุมและจำกัดพื้นที่แล้ว
รมว.อว.กล่าวต่อว่า ในด้านสุขภาพของประชาชน ได้มีการเข้าไปตรวจสอบพนักงานภายในโรงงานกว่า 70 คน ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยง โดยได้เก็บปัสสาวะและเลือดเพื่อตรวจหาสารกัมมันตรังสีตามวิธีมาตรฐาน ทั้งนี้จากการตรวจสอบประวัติสุขภาพย้อนหลัง 1 เดือนของประชาชนในจังหวัดปราจีนบุรี โดยการรายงานของโรงพยาบาลต่างๆ ไม่พบประชาชนรายใดมีอาการสุ่มเสี่ยงว่าเจ็บป่วยจากการได้รับสารกัมมันตรังสี นอกจากนี้ สำนักงาน ปส. ได้รายงานรายละเอียดว่าประเทศไทยมีจุดตรวจวัดปริมาณกัมมันตรังสีในอากาศ 18 จุด และในน้ำ 5 จุดทั่วประเทศ ทำการวัดทุกวันอย่างต่อเนื่อง ตามมาตรฐานสากล ซึ่งการตรวจเช็คข้อมูลย้อนหลัง 3 เดือน พบว่าอยู่ในระดับปกติทุกวันในทุกจุด รวมทั้งการตรวจสอบข้อมูลการตรวจวัดจากจุดตรวจในต่างประเทศในเครือข่ายไม่พบว่ามีการปนเปื้อนของซีเซียมในสิ่งแวดล้อม
"คณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ ได้ข้อสรุปจากการตรวจสอบข้อมูลทางวิชาการ โดยให้ประเมินความเสี่ยงตามหลักการทางวิชาการว่ากรณีที่จะรุนแรงที่สุดจะเกิดผลอย่างไร วิเคราะห์จากลักษณะและปริมาณสารกัมมันตรังสีที่สูญหายแล้ว รวมทั้งได้ตรวจสอบการปนเปื้อนของสารกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อมทั้งในพื้นที่เกิดเหตุ พื้นที่โดยรอบ พื้นที่ใกล้เคียง และบริเวณต่างๆของประเทศ รวมทั้งตรวจสอบกับจุดวัดต่างๆในต่างประเทศเพื่อให้เกิดความแน่ใจ ทั้งนี้ ไม่พบกัมมันตรังสีในสิ่งแวดล้อม น้ำ ดิน อากาศ และยังไม่พบผู้ป่วยจากกัมมันตรังสี แต่อย่างไรก็ตามได้สั่งการให้ระดมกำลังทุกภาคส่วน โดยนอกจากจะมีนักวิชาการของ ปส.แล้ว ยังมีนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยร่วมติดตามและตรวจสอบทั้งหมดอย่างเข้มงวดและใกล้ชิดที่สุดจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย" ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวและว่า
ที่ประชุมได้เห็นชอบกับแนวทางจัดการปัญหาของคณะกรรมการพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ การปฏิบัติงานของทางจังหวัด รวมทั้งการจัดตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 รวมถึงการดูแลความปลอดภัยของประชาชนและดูแลการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อมทุกจุดและทุกพื้นที่รัศมีโดยรอบ ทั้งดิน น้ำ อากาศ ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้บริหารสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเฝ้าระวังอย่างสูงสุด เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับอันตรายจากสารกัมมันตรังสีฯ นี้
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร (สอ.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880
E-mail : pr@mhesi.go.th
Facebook : @MHESIThailandth
Instagram : mhesi_thailand
Tiktok : mhesi_thailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.