รู้จัก SWIR: เซนเซอร์ดาวเทียม THEOS-3 เพื่อประโยชน์ด้านเกษตรกรรมจากอวกาศ
THEOS-3 ดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติความละเอียดสูงดวงใหม่ของประเทศไทย จะมีหนึ่งในเพย์โหลดสำคัญที่ถูกติดตั้งไปด้วย นั่นคือเซนเซอร์ SWIR เพื่อการสำรวจในช่วงคลื่นที่ตามนุษย์มองไม่เห็น และยกระดับศักยภาพเทคโนโลยีอวกาศของไทย
เซนเซอร์ SWIR หรือ Short Wave Infrared Sensor Payload เป็นอุปกรณ์ที่ใช้บันทึกข้อมูลในช่วงคลื่นอินฟราเรดย่านสั้น ซึ่งข้อมูลจากเซนเซอร์ SWIR บนดาวเทียมสามารถเป็นประโยชน์ต่อการทำเกษตรกรรม อาทิ การวิเคราะห์ความชื้นของพืชและดิน, การตรวจสอบพืชผล, การวัดระดับความแห้งแล้ง และสนับสนุนการวางแผนการเพาะปลูกอย่างได้มีประสิทธิภาพ เป็นต้น
เนื่องจากเซนเซอร์ SWIR สามารถตรวจจับการสะท้อนและดูดกลืนคลื่นแสงในช่วงอินฟราเรดใกล้ ในช่วงความยาวคลื่นตั้งแต่ 1,000 - 1,750 นาโนเมตร (แสงที่ตามนุษย์มองเห็น มีความยาวคลื่นระหว่าง 350 - 780 นาโนเมตร) ซึ่งช่วงความยาวคลื่นดังกล่าวสามารถบ่งบอกโครงสร้างของใบพืชได้ดีกว่าแสงที่ตามองเห็น และมีความเหมาะสมต่อตรวจสอบความชื้นของพืชและดินมากกว่า ทำให้สามารถตรวจจับสภาวะความผิดปกติของพืช หรือการเปลี่ยนแปลงปริมาณความชื้นดินได้ จึงส่งผลให้สามารถนำข้อมูลมาใช้ในด้านเกษตรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าที่เคย
อุปกรณ์ดังกล่าว จะถูกพัฒนาขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่าง GISTDA หรือ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) กับ LATCONNECT60 บริษัทด้าน AI ระดับแนวหน้าจากออสเตรเลีย ผู้เชี่ยวชาญด้านการแปลงข้อมูลภาพถ่ายโลกจากอวกาศ ให้กลายเป็นข้อมูลเชิงลึกที่สามารถนำไปใช้งานต่อได้
GISTDA และ LatConnect 60 ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจ หรือ MOU เมื่อวันที่ 17 เมษายน ค.ศ. 2025 เพื่อร่วมพัฒนาเซนเซอร์บันทึกภาพแบบ SWIR บนดาวเทียม THEOS-3 ตั้งแต่กระบวนการศึกษาความเป็นไปได้ การบูรณาการ การเชื่อมต่อระบบ การทดสอบ และการตรวจสอบความถูกต้องของเพย์โหลด เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันกับดาวเทียมของประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
ทั้งนี้ การลงนามดังกล่าวมี ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA และ Mr. Venkat Pillay ผู้บริหารของ LATCONNECT60 เป็นผู้ร่วมลงนาม พร้อมได้รับเกียรติจาก ดร.แองเจลา แมคโดนัลด์ (Dr. Angela Macdonald PSM) เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามครั้งนี้ด้วย
ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ไม่เพียงตอกย้ำบทบาทของ GISTDA ในฐานะองค์กรหลักด้านเทคโนโลยีอวกาศของประเทศ แต่ยังสะท้อนถึงทิศทางใหม่ของประเทศไทยในการเชื่อมโยงความร่วมมือด้านเทคโนโลยีขั้นสูงกับนานาประเทศ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล การบริหารจัดการทรัพยากร และการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต”
อุปกรณ์ SWIR บนดาวเทียม THEOS-3 จะประกอบด้วยแถบสเปกตรัม 4 แถบต่อชุดเซนเซอร์ โดยเซนเซอร์นี้มีความละเอียด (Spatial Resolution) หลังการประมวลผลอยู่ที่ประมาณ 9 เมตร และมีแนวกวาดสำหรับการถ่ายภาพ (Swath Width) ประมาณ 11 กิโลเมตรต่อหนึ่งชุดเซนเซอร์ จากระดับความสูงเฉลี่ยของวงโคจรดาวเทียมที่ 500 กิโลเมตรด้วยกัน
นอกจากการร่วมพัฒนาเซนเซอร์บนดาวเทียม THEOS-3 แล้ว GISTDA กับ LatConnect 60 จะมีการขยายผลกระบวนการประยุกต์ใช้ข้อมูลจากดาวเทียมให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ พัฒนากำลังคน และการต่อยอดความร่วมมือในมิติอื่น ๆ ของอุตสาหกรรมอวกาศในอนาคต
สำหรับดาวเทียม THEOS-3 จะเป็นดาวเทียมแบบ Micro Satellite สำหรับภารกิจการสำรวจทรัพยากรธรรมชาติความละเอียดปานกลางดวงที่ 4 ของประเทศไทย มีกำหนดส่งขึ้นสู่วงโคจรในปี ค.ศ. 2027 เพื่อขึ้นไปปฏิบัติภารกิจในวงโคจรประเภท Sun-synchronous เช่นเดียวกับดาวเทียม THEOS-2 ที่กำลังปฏิบัติการอยู่ในปัจจุบัน
ดาวเทียม THEOS-3 จะมีการผลิตชิ้นส่วนจากผู้ประกอบการในประเทศไทย เช่นเดียวกับกระบวนการออกแบบ ทดสอบ และประกอบดาวเทียม หลังจากผ่านกระบวนการระดมความเห็นจากหน่วยงานที่มีความต้องการใช้ข้อมูลดาวเทียม เพื่อนำมาพัฒนาเพย์โหลดต่าง ๆ เช่น เซนเซอร์ SWIR โดยวิศวกรของ GISTDA จะมีการร่วมมือกันประกอบเข้ากับ Engineering Model ของ THEOS-3 และจะต่อยอดสู่การประกอบ Flight Model ในปี ค.ศ. 2026 ในลำดับต่อไป
นี่คือหนึ่งในการใช้ประโยชน์จากดาวเทียม เพื่อยกระดับและสนับสนุนการเกษตรกรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการติดตามและประเมินคาร์บอนและก๊าซมีเทน ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อเป้าหมาย Net Zero ของประเทศไทย ตามวิสัยทัศน์ของ GISTDA ในการนำคุณค่าจากอวกาศและภูมิสารสนเทศสู่สังคม
สามารถติดตามบทความความรู้อื่นๆ ของ สทอภ. ได้ที่ คลิกที่นี่
ที่มา : สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.)
https://www.gistda.or.th/
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร (สอ.)
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880
E-mail : pr@mhesi.go.th
Facebook : @MHESIThailand
Instagram : mhesi_thailand
Tiktok : mhesi_thailand
Twitter : @MHESIThailand
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.