นักวิจัยของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านวิจัยและวิชาการ ของ วช. กระทรวงการอุดมศึกษาฯ พบว่าการคาดการณ์ว่ามาตรการต่างๆที่จะใช้ในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ของประเทศอังกฤษ จะมีผลอย่างไร โดยใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์คาดการณ์ว่าจะมีผู้ป่วยจำนวนมากน้อยเท่าไหร่และในสัปดาห์ไหน แล้วเอามาเทียบกับจำนวนเตียงของไอซียูที่จะเอามารักษาผู้ป่วยหนักได้ ว่าจะเพียงพอหรือไม่อย่างไร
นักวิจัยของมหาวิทยาลัยอิมพีเรียลคอลเลจ ได้รายงานในวารสาร Science พบว่า ถ้าไม่ทำอะไรเลย ปล่อยให้ระบาดอย่างรวดเร็วไปเรื่อยๆ สถานการณ์จะเลวร้ายที่สุด (worst case scenario) จำนวนผู้ป่วยหนักในอังกฤษจะเพิ่มขึ้นจนเกินกว่าจำนวนเตียงของ ICU ที่มีอยู่ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน และจะขึ้นสูงสุดในช่วงเดือนมิถุนายน โดยในตอนนั้นจะเกินกำลังของ ICU 30 เท่า (แปลว่าผู้ป่วยหนัก 30 คนอาจจะเข้า ICU ได้แค่คนเดียว) สถานการณ์แบบนี้จะเหมือนกับที่กำลังเกิดขึ้นในอิตาลีที่ระบาดเร็วมาก คนไข้จำนวนมากป่วยในเวลาเดียวกัน จึงเจ็บหนัก เสียหายหนัก
แต่ถ้าใช้มาตรการควบคุม เช่น แยกผู้ป่วย เก็บตัวผู้ที่สัมผัสไว้ที่บ้าน เพิ่มระยะห่างระหว่างบุคคล ปิดโรงเรียน ปิดมหาวิทยาลัย เป็นต้น จะช่วยชะลอการระบาดและลดจำนวนผู้ป่วยได้ ทำให้จำนวนผู้ป่วยหนักที่ต้องเข้า ICU ลดลง ลดภาระของโรงพยาบาล ยืดเวลาและความเร็วในการระบาดให้ช้าลงได้ โดยแต่ละมาตรการให้ผลที่ไม่เท่ากัน อย่างไรก็ตามมาตรการเดี่ยวๆแต่ละอย่าง จะได้ผลไม่มากนัก จำเป็นจะต้องใช้หลายมาตรการร่วมกัน จึงจะบรรเทาความรุนแรงของการระบาดลงได้
วิเคราะห์และประมวลข้อมูล โดย สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.