เมื่อวันที่ 16 ม.ค. นางสาวสุชาดา ชาง แทนทรัพย์ เลขานุการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้รับมอบหมายจากนางสาวศุภมาส อิศรภักดี รมว.อว. ให้เป็นประธานเปิดงาน "รู้น้ำ รู้อากาศ ปี 68: คาดการณ์และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำ" จัดโดยสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) หรือ สสน. โดยมี ดร.รอยบุญ รัศมีเทศ ผู้อำนวยการ สสน. กล่าวรายงาน และมี นางสาวสุณีย์ เลิศเพียรธรรม หัวหน้าผู้ราชการกระทรวง อว. รักษาการราชการแทนรองปลัดกระทรวง อว. นางสาววราภรณ์ รุ่งตระการ ที่ปรึกษาด้านระบบบริหารการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิ จัยและนวัตกรรม รักษาการราชการแทนรองปลัดกระทรวง อว. ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนฯ อว. ส่วนหน้า และสื่อมวลชนเข้าร่วม ณ ห้องบัญชาการวิเคราะห์และติดตามสถานการณ์น้ำ สสน.
นางสาวสุชาดา กล่าวว่า กระทรวง อว. ให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาสนับสนุนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศ เพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นและเสริมสร้างความมั่นคงให้กับประชาชน ทั้งนี้ เนื่องจากปี 2568 ประเทศไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายด้านทรัพยากรน้ำและสภาพภูมิอากาศที่แปรปรวนอย่างต่อเนื่อง การบริหารจัดการน้ำจึงต้องอาศัยข้อมูลที่ถูกต้อง ทันสมัย และเชื่อถือได้ ซึ่งระบบคลังข้อมูลน้ำแห่งชาติที่พัฒนาโดย สสน. เป็นเครื่องมือสำคัญในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลน้ำระดับประเทศ
นางสาวสุชาดา กล่าวต่อว่า รมว.อว. ได้มอบหมายให้เน้นย้ำนโยบายสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ 1. การพัฒนาเทคโนโลยีและระบบข้อมูลเพื่อการคาดการณ์สถานการณ์น้ำที่แม่นยำ ครอบคลุม และตอบสนองความต้องการในระดับพื้นที่ 2. การสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน หน่วยงานท้องถิ่น และมหาวิทยาลัยในพื้นที่ โดยเชื่อมโยงการทำงานกับ "ศูนย์ปฏิบัติการผู้พันวิทย์" เพื่อให้เกิดการตอบสนองที่รวดเร็วและครอบคลุมทุกภูมิภาค และ 3. การถ่ายทอดองค์ความรู้และพัฒนาบุคลากร เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและทักษะการใช้ข้อมูลน้ำในงานวางแผนและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
ดร.รอยบุญ รัศมีเทศ ผู้อำนวยการ สสน. เปิดเผยผลการคาดการณ์ปริมาณฝนปี 2568 ว่า ประเทศไทยจะมีปริมาณฝนมากกว่าปกติประมาณร้อยละ 9 โดยมีลักษณะใกล้เคียงกับปี 2542 ทั้งนี้ พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศจะมีฝนมากกว่าปกติ ยกเว้นบางพื้นที่ในภาคเหนือ ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี กระบี่ และนครศรีธรรมราช อาจจะมีปริมาณฝนน้อยกว่าปกติ สำหรับคาดการณ์สถานการณ์ฝนในปี 2568 ช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมจะมีฝนตกตามปกติและมีโอกาสเกิดฝนตกหนักในบางพื้นที่ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันได้บางแห่ง ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในภาค อีสานตอนล่างอาจมีปริมาณน้ำไม่เพียงพอ และอาจเกิดฝนทิ้งช่วงในเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ก่อนที่ฝนจะกลับมาตกในช่วงปลายเดือนกันยายน หลังจากนั้นช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม ฝนจะตกหนักมากกว่าค่าปกติอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ในบางแห่ง
"เราสามารถติดตามสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปมาแบบนี้ได้ โดยเฉพาะการเตรียมความพร้อมในระดับพื้นที่ เช่น เครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) มหาวิทยาลัยในพื้นที่ หรือ อว. ส่วนหน้าหากเรารู้ทันถึงสภาพอากาศและเข้าใจสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที เราจะพร้อมรับมือกับภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอุทกภัยหรือภัยแล้งก็ตาม" ดร.รอยบุญ กล่าว
ทั้งนี้ สสน. ได้พัฒนาระบบติดตามสถานการณ์น้ำที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้ง่าย ผ่านทางเว็บไซต์ www.thaiwater.net และแอปพลิเคชั่น ThaiWater สามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ Android และ iOs โดย มีข้อมูลสถานการณ์น้ำปัจจุบัน และคาดการณ์ฝนล่วงหน้า 7 วัน เพื่อให้ประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้วางแผนและเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.