นักวิจัย ม.นเรศวร แนะใช้การตรวจหาสารพันธุ์กรรมไวรัสโคโรนาในน้ำโสโครกโดยใช้ประชากรตัวอย่างด้วยวิธีการตรวจเช่นเดียวกับในคน จะช่วยให้เปิดเมืองได้เร็วขึ้น พร้อมเรียกร้องให้หยุดฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ชั่วคราวในช่วงวิกฤตโควิด หลังพบตะกอนตะกั่วที่ดูดขึ้นมาฟุ้งกระจาย ทำให้น้ำขุ่นและมีสารตกค้างในน้ำเกินค่ามาตรฐาน
ผศ.ดร.ธนพล เพ็ญรัตน์ หัวหน้าโครงการวิจัย “การใช้โฟมที่ปรับเสถียรด้วยอนุภาคแม่เหล็กนาโนร่วมกับการเหนี่ยวนำความร้อนทางแม่เหล็กไฟฟ้าในการเร่งการฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อนสารอินทรีย์ระเหยด้วยวิธีสกัดไอดิน” จากมหาวิทยาลัยนเรศวร ภายใต้การสนับสนุนทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาสถิติการติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ก่อให้เกิดโรคโควิด-19 รายใหม่ของไทยในแต่ละวันค่อนข้างคงที่ ขณะที่หลายจังหวัดรวมถึงพิษณุโลกไม่พบการติดเชื้อรายใหม่มาหลายวัน คำถามคือเมื่อใดจะเปิดเมืองได้อีกครั้ง
บทความในนิวยอร์กไทม์สที่ระบุว่าสหรัฐอเมริกาต้องตรวจการติดเชื้อให้มากกว่าปัจจุบันอีกวันละ 3 เท่าตัวจึงจะกลับมาเปิดเมืองได้อีกครั้ง โดยปัจจุบันสหรัฐมีอัตราการตรวจที่ 10,863 ต่อประชาการ 1 ล้านคน ส่วนของประเทศไทยอยู่ที่ 1,440 การตรวจต่อประชากร 1 ล้านคน ต่ำกว่าสหรัฐอเมริกาประมาณ 7.5 เท่า อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีอีกหนึ่งทางเลือกในการเปิดเมือง นั่นคือ การตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาในน้ำโสโครกเพื่อคัดกรอง ซึ่งจะทำให้สามารถตรวจการติดเชื้อโดยไม่ต้องตรวจทุกคนในจังหวัด ด้วยการตรวจน้ำโสโครกหรือน้ำเสียของสิ่งปฏิกูลจากมนุษย์ ได้แก่ อุจจาระหรือปัสสาวะ
“วัน ๆ หนึ่งคนเราขับถ่ายอุจจาระเฉลี่ยประมาณ 128 กรัมต่อคน และมีน้ำเสียจากสุขาที่รวมกิจกรรมชำระล้างการขับถ่ายอีกประมาณ 25-50 ลิตรต่อคนต่อวัน โดยผู้ติดเชื้อนั้นมีรายงานว่ามีสารพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาสูงตั้งแต่ 630,000 copies ต่อมิลลิลิตรของอุจจาระ ถึง 30,000,000 copies ต่อมิลลิลิตรของอุจจาระ ซึ่งงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกาตรวจเจอได้ต่ำที่สุด คือ 10 copies ต่อมิลลิลิตรของน้ำเสีย วิธีการตรวจใช้ RT-qPCR ปกติแบบที่ใช้ตรวจในคน ถ้าใช้ตัวเลข 10 copies ต่อมิลลิลิตรเป็นค่าต่ำสุด และคำนวณจะพบว่าจังหวัดพิษณุโลกซึ่งมีประชากรประมาณ 866,891 คน สามารถตรวจตัวอย่างน้ำโสโครกเพียง 90 ตัวอย่าง สำหรับสมมติฐานว่าอุจจาระของผู้ติดเชื้อมีสารพันธุกรรมของไวรัสที่ 30,000,000 copies ต่อมิลลิลิตร หรือ 4,267 ตัวอย่าง สำหรับสมมติฐานว่ามีสารพันธุกรรมของไวรัส 630,000 copies ต่อมิลลิลิตร ตัวอย่างน้ำโสโครกที่เป็นตัวแทนของทั้งจังหวัดพิษณุโลกยังน้อยกว่าการตรวจทุกคนในจังหวัด ประหยัดงบประมาณและเวลาอย่างมากมาย
นักวิจัยระบุว่า สามารถใช้เทคนิคการเก็บตัวอย่างน้ำแบบผสมรวมในการเก็บตัวอย่างน้ำเสียที่เป็นตัวแทนของคน 1,000 คนได้ เช่น ถ้ามีคอนโด 200 ห้อง มีคนอยู่ 400 คน ให้เก็บตัวอย่างน้ำโสโครกรวมของคอนโดนั้น ๆ มาผสมกับคอนโดอื่นในบริเวณข้างเคียง ไล่ตรวจไปทีละโซนทีละพื้นที่ หรือหากมีจุดที่มีน้ำเสียรวมของตำบลหนึ่งไหลมารวมกันก็เก็บตรงจุดนั้นเป็นตัวแทนของตำบลนั้นได้ หากตรวจแล้วพบก็สืบหากันต่อไปโดยอาจจะต้องแยกตรวจน้ำเสียรายตึก รายคอนโด หรือโซนของหมู่บ้าน จะทำให้เข้าถึงตัวผู้ติดเชื้อได้ไวขึ้น ถึงขั้นนี้การดูประวัติการเดินทาง กิจกรรม และอาการทางสุขภาพร่วมด้วยน่าจะทำให้เข้าถึงผู้ติดเชื้อได้เร็วขึ้น โดยที่ผู้ตรวจใส่ชุด PPE ก็เพียงพอแล้ว
ดังนั้น งานเก็บน้ำเสียจึงเป็นงานที่นักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม วิศวกรสิ่งแวดล้อม หรือสิ่งแวดล้อมภาค สิ่งแวดล้อมจังหวัด แม้แต่สถานีอนามัยก็สามารถทำได้หากได้รับการอบรมพื้นฐานมา ไม่จำเป็นต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์ ด้วยเหตุนี้จังหวัดที่มีการล็อกดาวน์จนไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมาระยะหนึ่งแล้วการตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัสโคโรนาในน้ำโสโครกอาจช่วยให้เราเปิดเมืองได้เร็วขึ้น ทั้งยังช่วยให้เราเฝ้าระวังการกลับมาของไวรัสด้วยหลักการและตรรกะแนวคิดเดียวกัน การตรวจน้ำเสียในโรงพยาบาลหรือโรงแรมที่มีขาจรจากต่างจังหวัดเข้ามาพักหลังเปิดเมืองจะทำให้เราเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงได้ ในทำนองเดียวกันการตรวจน้ำโสโครกจากห้องน้ำในสนามบินหรือแม้แต่จากห้องน้ำของเครื่องบินเองก็จะช่วยเฝ้าระวังได้อีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการวัดอุณหภูมิแบบปัจจุบัน
นอกจากนี้ ผศ.ดร.ธนพลยังมีความห่วงใยเรื่องสุขภาวะของชาวห้วยคลิตี้ จ.กาญจนบุรี ซึ่งคณะวิจัยและชาวชุมชนได้เข้าไปติดตามเฝ้าระวังโครงการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้จากการปนเปื้อนสารตะกั่วตามคำพิพากษาคดีปกครองตั้งแต่ปลายปี 2560 จนถึงปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการดูดตะกอนตะกั่วใส่ถุงเพื่อนำไปฝังกลบในหลุมฝังกลบ โดยพบว่ามีการฟุ้งกระจายของตะกอนตะกั่วจนท้องน้ำมีความขุ่นระยะทางไกลถึง 4 กิโลเมตร โดยน้ำที่รีดออกจากถุงเก็บตะกอนและไหลกลับลงไปในลำห้วยโดยตรงมีค่าตะกั่วสูงกว่าค่ามาตรฐานถึงเกือบ 100 เท่า ทำให้ตนและชาวชุมชนกังวลว่าจะเกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชุมชนในระยะยาว ซึ่งโครงการฟื้นฟูดังกล่าวดำเนินการในช่วงที่เกิดสถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ตามมาด้วยประกาศปิดหมู่บ้าน แทบไม่มีใครออกไปซื้อหาอาหารจากตลาดข้างนอก ไม่มีรถพุ่มพวงวิ่งเข้ามาขายอาหารในหมู่บ้าน ชาวบ้านจึงต้องจับสัตว์น้ำและเก็บผักตามลำห้วย บางครัวเรือนขาดแคลนน้ำก็ต้องใช้น้ำจากลำห้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เสี่ยงต่อสุขภาพอนามัยของชาวบ้าน จึงอยากให้ศาลตรวจสอบและหยุดการดูดตะกอนตะกั่วในลำห้วยชั่วคราว และขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลจัดหาอาหาร น้ำดื่มให้ชาวบ้านในช่วงที่ต้องเผชิญกับวิกฤตโควิด-19 และผลพวงจากการฟื้นฟูไปพร้อมกันด้วย
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.