วันที่ 16 กันยายน 2562 ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) เข้าติดตามการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ ที่ห้องบัญชาการและวิเคราะห์สถานการณ์ (War Room) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) โดย ดร.สุวิทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ สถานการณ์น้ำใน จ.อุบลราชธานี ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ระดับน้ำล้นตลิ่งอยู่ประมาณ 3.70 ม. และมีแนวโน้มลดลงวันละ 10-12 ซม. ระดับน้ำในแม่น้ำโขงลดลงวันละประมาณ 1 เมตร ทำให้ลุ่มน้ำชี-มูล ระบายน้ำได้ปริมาณมากขึ้น สถานการณ์ปัจจุบันดีขึ้น แต่คาดว่าช่วง 19-20 ก.ย.ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นมาพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกครั้งหนึ่ง ส่งผลให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างจะกลับมามีฝนตกเพิ่มขึ้น ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังและติดตามอย่างใกล้ชิด
จากนั้น มีการประชุมทางไกล ร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อรับทราบสถานการณ์ความเสียหายในภาพรวม และการฟื้นฟูหลังน้ำลด โดยสรุปสถานการณ์อุทกภัยด้านการเกษตร จ.อุบลราชธานี พบว่า มีพื้นที่ประสบภัยจำนวน 25 อำเภอ 170 ตำบล 1,289 หมู่บ้าน มีผู้ประสบภัย 36,607 ครัวเรือน กระทบพื้นที่การเกษตรรวม 0.49 ล้านไร่ พื้นที่นาข้าว 78,942 ไร่ พื้นที่ไม้ผล ไม้ยืนต้น 7,680 ไร่ อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ ได้เตรียมรับมือหลังเหตุการณ์น้ำท่วม โดย สสน. และ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศหรือจิสด้า ยังคงเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์และคาดการณ์อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ร่วมทำงานกับมหาวิทยาลัยในพื้นที่และสภาเกษตรกรจังหวัด เพื่อป้องกันความเสียหายเพิ่มเติม รวมทั้งสสน.ได้จัดทำเว็บไซต์เฉพาะกิจเพื่อบริหารจัดการในภาวะวิกฤตด้วย ส่วนระยะกลาง หลังจากน้ำลดเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว เร่งฟื้นฟูเยียวยา ด้านการเกษตร ปศุสัตว์ ประมง ทั้งพื้นที่เกษตรและพื้นที่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่ระยะยาว ร่วมกับมหาวิทยาลัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ สร้างระบบข้อมูลภูมิสารสนเทศในระดับพื้นที่ ระบบการแจ้งเตือน จัดทำผังน้ำ ข้อมูลแหล่งน้ำ โดย สสน. สนับสนุนการพัฒนาระบบข้อมูลน้ำระดับจังหวัด และการจัดการทรัพยากรน้ำระดับชุมชน ฟื้นฟู พัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ เพื่อเป็นแก้มลิง การบริหารจัดการน้ำร่วมกัน ระหว่างเกษตร ท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งปัจจุบัน สสน. ได้ดำเนินงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำชุมชน ตามแนวพระราชดำริ ด้วย ว และ ท ร่วมกับ 60 ชุมชนแกนนำ ซึ่งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 18 ชุมชน โดยในจ.อุบลราชธานี มีตัวอย่างความสำเร็จ ที่บ้านผาชัน อ.โพธิ์ไทร บ้านหัวเห่ว อ.โขงเจียม และ บ้านท่าค้อ อ.เขื่องใน ซึ่งพร้อมขยายผลไปสู่พื้นที่อื่นต่อไป
เผยแพร่ข่าว : นางสาวพจนพร แสงสว่าง
ภาพ : สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.)
วีดีโอ : นายสกล นุ่นงาม
ส่วนสื่อสารองค์กร กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทร. 02 333 3727 – 3732 โทรสาร 02 333 3834
E-Mail: pr@mhesi.go.th Facebook: sciencethailand
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.