รัฐมนตรีสุวิทย์ แสดงแนวคิด “พลิกวิกฤติสร้างเศรษฐกิจไทย : Do or Die”

วันที่ 18 กันยายน 2562 ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “พลิกวิกฤติสร้างเศรษฐกิจไทย : Do or Die” ณ ห้องไทยจิตรลดา แกรนด์ บอลรูม โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ ได้กล่าวถึงนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมและนวัตกรรมของประเทศ โดยคนในประเทศจะต้องเปลี่ยนความคิด พฤติกรรม การทำงานและการเรียนรู้ใหม่ ให้สามารถอยู่ได้ภายใต้โลกใหม่ พร้อมได้สรุปประเด็นที่น่ากลัวและท้ายของประเทศไทย ทั้งสิ้น 7 เรื่อง ดังนี้ 

1. Career Migration เป็นโจทย์สำคัญของรัฐบาลที่ต้องดูแลคนทำงานหรือแรงงานที่เกิดตกงาน แล้วต้องการจะหาใหม่หรือเปลี่ยนงาน ซึ่งต่อไปจะไม่ได้เพียงให้สำคัญเฉพาะนักศึกษาหรือบัณฑิตจบใหม่ แต่ต้องให้สำคัญกับกลุ่มนี้ด้วย
2. Jobless Growth ในอนาคตเศรษฐกิจจะเติบโตจากฐานข้อมูลหรือ Data และ Ai ซึ่งเป็นอัตราการเติบโตที่ดี แต่กลับจะไม่มีการจ้างแรงงานเลย
3. Skill Divide ในอนาคตคนที่มีทักษะและมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับดิจิทอลเท่านั้นจึงจะอยู่รอดหรืออยู่ได้ และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งคนส่วนใหญ่ของประเทศยังขาดทักษะด้านนี้ ทำให้คนในประเทศถูกแยกออกเป็น 2 กลุ่ม รัฐบาลจึงเน้นใน 2 ส่วน คือกลุ่มแรกเน้นพัฒนาไปให้ข้างหน้าให้มากที่สุด และส่วนอีกกลุ่มจะเน้นเรื่องการพัฒนาการท่องเที่ยว เมืองหลัก เมืองรอง แทน เพื่อไม่ให้สังคมถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน
4. Competing for Talents เกิดการแย่งกำลังที่มีความสามารถระดับต้นๆ ซึ่งจะทำให้มหาวิทยาลัยหาผู้เรียนได้ลำบากขึ้น เนื่องจากมหาวิทยาลัยต่างชาติจะให้ทุนแก่เด็กนักเรียนไทยที่เก่งๆ และนักเรียนไทยก็เลือกไปเรียนต่อต่างประเทศตั้งแต่จบมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยสังเกตได้จากที่ปัจจุบัน ทุน ก.พ. หรือ ทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีจำนวนมาก แต่ไม่ค่อยมีคนขอรับทุนดังกล่าว
5. Multistage Life การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต โดยต้องเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ตลอด
6. Intellectual Capital Investment ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เพราะคนมีอายุที่ยืนยาวขึ้น ดังนั้น จึงต้องให้ความสำคัญในการศึกษาเกี่ยวกับผู้สูงวัย ซึ่งอาจจะเป็นสตาร์ทอัพที่จะต้องสร้างกระบวนการเรียนรู้ให้คนกลุ่มนี้
7. Career of the Future ต้องลงทุนสำหรับการเตรียมคน เพื่อเตรียมพลังสมองของประเทศในการขับเคลื่อนประเทศในอนาคต

“กระทรวงการอุดมศึกษาฯ จะต้องทำหน้าที่ขับเคลื่อนประเทศไทยให้พร้อมไปสู่ Ai และ Data Economy เพราะในอนาคตสิ่งเหล่านี้จะเป็นเรื่องพื้นฐานของประเทศ และอีกประมาณ 3 – 5 ปี ข้างหน้า จะได้เห็นเรื่องนี้อย่างเป็นระบบ ซึ่งถ้าไม่ทำอะไรเลย หรือไม่ Do ก็อาจจะ Die ได้” รัฐมนตรีสุวิทย์ กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวและภาพ : นางสาวพจนพร แสงสว่าง

วีดีโอ : นายสุเมธ บุญเอื้อ

ส่วนสื่อสารองค์กร กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม

โทร. 02 333 3727 – 3732 โทรสาร 02 333 3834

E-Mail: pr@mhesi.go.th Facebook: sciencethailand