4 - 8 พฤศจิกายน 2562 สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวงการอุดมศึกษาฯ (อว.) ร่วมกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ติวเข้มทฤษฎีและฝึกวางแนวทางพัฒนาโครงสร้างการตรวจจับเหตุความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์ ให้ผู้รับผิดชอบหลักด้านความมั่นคงอาเซียน พร้อมถกบทบาท ประเมินจุดอ่อนระบบ หวังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตรวจวัสดุนิวเคลียร์และวัสดุกัมมันตรังสีของไทยและภูมิภาค
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 นายภานุพงศ์ พินกฤษ รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการกองตรวจสอบทางนิวเคลียร์และรังสี ได้รับมอบหมายจาก นางสาววิไลวรรณ ตันจ้อย เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ เป็นประธานเปิดการฝึกอบรม “IAEA Regional Workshop to Develop a Road Map for Building a Nuclear Security Detection Architecture” ระหว่างวันที่ 4 - 8 พฤศจิกายน 2562 ณ โรงแรมมิตร์ บีช เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยมีหน่วยงานด้านความมั่นคงเข้าร่วม จากประเทศไทย 6 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานสภาความมั่งคงแห่งชาติ (สมช.) กองสืบสวนและปราบปราม กรมศุลกากร สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง กองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักข่าวกรองแห่งชาติ และ ปส. และจากประเทศสมาชิกอาเซียน 3 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และพม่า ซึ่งการฝึกอบรมนี้จะช่วยให้การวางแผนเพื่อปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างระบบรักษาการตรวจจับเหตุความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม สามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติงานด้านการตรวจจับการนำวัสดุนิวเคลียร์ หรือวัสดุกัมมันตรังสีไปพัฒนาเป็นอาวุธนิวเคลียร์หรือใช้เป็นอาวุธในการก่อการร้ายทางนิวเคลียร์ของทุกประเทศ ได้อย่างครอบคลุมและเต็มประสิทธิภาพ รวมทั้งสามารถปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับระหว่างประเทศภายใต้กรอบความร่วมมือของ IAEA ส่งผลให้ภารกิจด้านความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์ทั่วโลกมีความเข้มแข็ง ประชาชนเกิดความปลอดภัย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มความร่วมมือและประสานงานระหว่างประเทศ โทร 0 2596 7600 ต่อ 4104
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.