สอว. ชู “สมาร์ทฟาร์ม” กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรวิถีอินทรีย์กระนวน จ.ขอนแก่น ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียกระดับการผลิตและแปรรูปผ่านกลไกของอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พลิกชีวิตเกษตรกร ปลูกผักอินทรีย์ผ่านแอพพลิเคชั่น บนสมาร์ทโฟน ทำงานอัตโนมัติทั้งการตัดน้ำอัตโนมัติ การวัดความเข้มแสง การวัดค่า อุณหภูมิ อากาศ น้ำ ดิน และการวัดค่าความชื้นในดิน แถมทำงานได้แบบ Real Time
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พร้อมด้วย น.ส.ทิพวัลย์ เวชชการัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงานเลขานุการคณะกรรมการส่งเสริมกิจการอุทยานวิทยาศาสตร์ (สอว.) สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และ นายอภิรชัย วงษ์ศรีวรพล ผู้อำนวยการอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำสื่อมวลชนลงพื้นที่เยี่ยมชมโครงการ “ยกระดับเกษตรกรอำเภอกระบวนสู่สมาร์ทฟาร์มเมอร์ (Smart Farmer)” ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรวิถีอินทรีย์กระนวน ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มเกษตรกรในเขตพื้นที่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ที่มีสมาชิกเน้นการปลูกผักปลอดสารพิษ การทำปุ๋ยหมักนม เพื่อการบริโภคในชุมชนและจำหน่ายในพื้นที่ จ.ขอนแก่นและจังหวัดใกล้เคียง
ศาสตราจารย์ ดร.ศุภชัย เปิดเผยว่า กระทรวงการอุดมศึกษาฯ โดย สอว. เข้ามาสนับสนุนให้ชุมชนเกิดความเข้มแข็งผ่านกลไกของอุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภายใต้โครงการพัฒนาขีดความสามารถทางเทคโนโลยีและวิจัยของภาคเอกชน (Industrial Research and Technology Capacity Development Program หรือ IRTC) ที่ใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยียกระดับการผลิตและแปรรูป ให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรวิถีอินทรีย์กระนวน ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มเกษตรกร สมาชิก 23 คนที่รักในวิถีเกษตรอินทรีย์ เช่น การปลูกผักปลอดสารพิษ การทำปุ๋ยหมักนม การเลี้ยงไส้เดือนเพื่อนำผลผลิตมาใช้ในการปลูกผักเพื่อการผลิตสินค้าเกษตรสำหรับบริโภคในชุมชนและส่งขายในพื้นที่เขตจังหวัด ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธุ์และอุดรธานี จนเป็นที่ต้องการของตลาด ขณะที่กำลังการผลิตของกลุ่มไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาดอีกทั้งยังขาดบุคลากรหรือแรงงานภาคเกษตร เพราะการทำเกษตรอินทรีย์ถือว่าเป็นเกษตรกรประณีตที่ต้องการการดูแลจากเกษตรกรอย่างมากเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ เป็นเกษตรอินทรีย์อย่างแท้จริง
นายอภิรชัย กล่าวว่า อุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ยกระดับเทคโนโลยีผ่านโครงการ IRTC และได้นำผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดทำระบบสมาร์ทฟาร์ม คือ นางปาริชาติ กินรี อาจารย์ประจำคณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม หัวหน้าโครงการ และนางอังคณา เจริญมี อาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ลงพื้นที่วินิจฉัยปัญหา จากนั้น ได้ออกแบบและพัฒนาระบบสมาร์ทฟาร์มสำหรับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรวิถีอินทรีย์กระนวน
นางปาริชาติ ชี้แจงว่าจากการลงพื้นที่วิเคราะห์โจทย์ของชุมชน จึงได้ทำบอร์ดแสดงผลและควบคุมการทำงานด้วยจอ LED หรือ ผ่านระบบ IOT รวมทั้งระบบการบริหารจัดการฟาร์ม ได้แก่ การตัดน้ำอัตโนมัติ การวัดความเข้มแสง การวัดค่า อุณหภูมิ อากาศ น้ำ ดิน และการวัดค่าความชื้นในดิน สามารถทำงานได้แบบ Real Time มีการส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบ Internet และเก็บข้อมูลไว้ใน server และสามารถเข้าไปดูข้อมูลผ่านลิงค์ได้เพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ และระบบสมาร์ทฟาร์ม ยังสามารถดูข้อมูลต่างๆ ผ่านแอฟปลิเคชั่น บนสมาร์ทโฟนได้ด้วย
เสียงสะท้อนจากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรวิถีอินทรีย์กระนวน “ก่อนหน้านี้เกษตรกรจะใช้เวลาในการดูแลแปลงผักวันละ 6 – 8 ชั่วโมง ใช้ระยะเวลาในการปลูก 40 – 45 วัน ผลผลิตมีคุณภาพไม่ค่อยดี ต้นผักโตไม่เต็มที่และมีรสชาติขม มีของเสียเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการปลูก ประมาณร้อยละ 20 ผักมีน้ำหนักต้นละ 0.5 ขีด ผักมีราคากิโลกรัมละ 40 บาท พออุทยานวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่อยู่ในพื้นที่เข้าสนับสนุนพัฒนาเทคโนโลยีและนำระบบสมาร์มฟาร์มเข้าไปช่วย ปรากฏว่า เกษตรกร ใช้เวลาในการดูแลแปลงผัก วันละ 10 – 20 นาทีเท่านั้น ส่วนระยะเวลาในการปลูก 40 – 45 วันเท่ากัน แต่ผลผลิตมีคุณภาพ ต้นผักโตเต็มที่ มีน้ำหนักเพิ่มสูงขึ้น มีรสชาติดี ไม่ขม ขณะที่ของเสียที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการปลูกลดลง ประมาณร้อยละ 5 ผักมีน้ำหนัก ต้นละ 1 – 1.5 ขีด และมีราคากิโลกรัมละ 80 – 100 บาท ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือเกษตรกร มีความเชื่อมั่นในการลงทุน มีการขยายโรงเรือนเพื่อเพิ่มผลผลิตให้ทันต่อความต้องการของตลาด” คุณสุวิรัตน์ รักษาเคน ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรกรวิถีอินทรีย์กระนวน กล่าว
เผยแพร่ข่าวและภาพ : นางสาวพจนพร แสงสว่าง
ส่วนสื่อสารองค์กร กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทร. 02 333 3727 - 3732 โทรสาร 02 333 3834
E-Mail: pr@mhesi.go.th Facebook: MHESIThailand
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.