“เอนก เหล่าธรรมทัศน์ “ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ นำผู้บริหาร อว.ลงพื้นที่โครงการ U2T จ.ลำปาง เตรียมยกระดับเกษตรอินทรีย์ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมพัฒนาศักยภาพผลิตภัณฑ์ชุมชน รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยว มีทั้งป่าสงวนแม่วังและอุทยานขุนตาล ชูพักโฮมสเตย์ ทำเกษตรอินทรีย์ ปลื้มมีเงินไหลเวียนเข้าตำบลช่วยเศรษฐกิจชุมชน
20 มีนาคม 2564 : ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมผู้บริหาร อว. ลงพื้นที่โครงการยกระดับเศรษฐกิจและสังคมรายตำบลแบบบูรณาการหรือมหาวิทยาลัยสู่ตำบล สร้างรากแก้วให้ประเทศ (U2T) ที่ศูนย์การเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบ้านหล่ายทุ่ง ต.วอแก้ว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง เพื่อติดตามนักศึกษาที่ได้รับการจ้างงานโครงการ U2T และเยี่ยมชมโครงการเกษตรอินทรีย์วอแก้ว ซึ่งเป็นการรวมตัวของผู้ทำการเกษตรของทุกหมู่บ้าน
รมว.อว. กล่าวว่า ต้องขอบคุณโควิด-19 วิกฤตินี้ ทำให้รัฐบาลต้องจ้างงานนักศึกษาและประชาชนเพื่อบรรเทาการว่างงานด้วยความเป็นห่วงพี่น้องประชาชน ขณะที่ อว. เองได้นำมาคิดต่อว่าการจ้างงานของเราต้องไม่เพียงแต่ทำให้หายจากความทุกข์เท่านั้น แต่ต้องทำให้มากกว่า คือ ให้ทั้งวิชาการความรู้ การเพิ่มและพัฒนาทักษะ ให้ประสบการณ์การทำงานในพื้นที่กับชุมชนและการทำงานแบบเป็นทีม มีอาจารย์จากมหาวิทยาลัยเป็นพี่เลี้ยง พร้อมจัดกิจกรรมเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ได้รู้จักพูดคุยกับคนมากหน้าหลายตา จึงอยากให้ผู้ได้รับการจ้างงานรักษาโอกาสนี้ไว้ การจ้างงานครั้งนี้ จะให้อนาคตใหม่เพื่อให้ทุกคนนำไปต่อยอดอาชีพในอนาคตได้
“อย่างไรก็ตาม เท่าที่มีการประเมินเบื้องต้น พบว่าโครงการ U2T มีผลตอบรับดีมาก แต่ละเดือนทำให้มีเงินไหลเข้าตำบลดีมาก ผมจึงได้กำชับทางตำบล อบต. เทศบาล ช่วยทำให้มีเงินไหลเวียนอยู่ในชุมชนให้มากที่สุดเพื่อช่วยเศรษฐกิจชุมชน”รมว.อว.กล่าว
ดร.เอนก กล่าวอีกว่า สำหรับในพื้นที่ที่ศูนย์การเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงบ้านหล่ายทุ่ง ต.วอแก้ว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง นักศึกษาที่ได้รับการจ้างงานโครงการ U2T จะร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง พัฒนาศักยภาพผลิตภัณฑ์ชุมชน เช่น ตราสินค้า สลากสินค้า บรรจุภัณฑ์ ส่งเสริมการตลาดและช่องทางการตลาด ได้แก่ อบรมพัฒนาตลาดออนไลน์ อบรมการคำนวณต้นทุนผลิตภัณฑ์ อบรมการจัดทำบัญชี อบรมการจัดการของเสียจากการผลิต นอกจากนั้น จะมีการยกระดับอาชีพเกษตรกรรม เช่น การส่งเสริมการทำปุ๋ยหมัก ที่ชุมชนยังขาดความรู้ในเรื่องการตรวจสอบสารอาหารในปุ๋ย และจากการสำรวจพื้นที่ในชุมชนและจากการค้นหาข้อมูลการวิจัยเกี่ยวกับการทำปุ๋ยพบว่า กระถินป่าที่มีอยู่ในชุมชนจำนวนมากสามารถนำมาทำปุ๋ยหมักได้ ผลการวิจัยพบว่ากระถินมีสารอาหารที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช เนื่องจากมีปริมาณธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม
“ที่สำคัญจะมีการพัฒนาและยกระดับแหล่งท่องเที่ยว เพราะวอแก้วพื้นที่ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นพื้นที่ภูเขาและเนินเขา มีความสวยงาม มีพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ แม่วังฝั่งขวา อุทยานขุนตาล และมีวัฒนธรรมประเพณีที่สำคัญ ได้แก่ ประเพณีนมัสการและสรงน้ำพระธาตุ วัดม่อนป๋อปอดอยแล รวมทั้งมีแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น ห้วยแม่ไพร ห้วยแม่เปิ๊บ ห้วยแม่ติว ห้วยบก ห้วยซ้อน ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติและการเกษตร ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวสนใจทำกิจกรรมในชุมชนจำนวนมาก เช่น นักปั่นจักรยาน ผู้สนใจเข้ามาอบรมการทำการเกษตรอินทรีย์ และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาพักโฮมสเตย์ เป็นต้น โดยจะต้องมีการพัฒนาภูมิทัศน์ชุมชน เช่น การใช้ต้นพืชผักที่เพาะปลูกในการจัดสถานที่ การปรับปรุงภูมิทัศน์โดยใช้ภูมิปัญญาชุมชนและสอดรับกับวิถีชุมชน” รมว.อว. กล่าวในตอนท้าย
ถ่ายภาพ : วีนัส แก้วประเสริฐ
เผยแพร่ข่าว : ปราณี ชื่นอารมณ์
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง สป.อว.
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2610 5241-47 Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.