21 กันยายน 2564 / ศาสตราจารย์ ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การวิจัย การศึกษา ประยุกต์ใช้แนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงนำมาพัฒนาเป็นโมเดลขยายผลให้เกิดความยั่งยืนของระบบเศรษฐกิจในอนาคต ระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ ผ่านซอฟแวร์ระบบติดต่อสื่อสาร (Zoom meeting) โดยมีนายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ศาสตราจารย์กำพล ปัญญาโกเมศ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และคณะผู้บริหารเข้าร่วมในพิธีดังกล่าว ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้งนี้ด้วย
ศาสตราจารย์ ดร.นพ. สิริฤกษ์ กล่าวว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ได้มีการจัดตั้งวิทยสถานด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย หรือ “ธัชชา” ขึ้น เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 ตามนโยบายของศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อน การวิจัยและพัฒนาบุคลากรทางด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ และศิลปกรรมศาสตร์ของประเทศ นำไปสู่การสร้างคุณค่าและผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและสังคมของชาติ ครอบคลุม 5 สถาบัน ได้แก่ สถาบันสุวรรณภูมิศึกษา สถาบันเศรษฐกิจพอเพียง สถาบันโลกคดีศึกษา สถาบันพิพิธภัณฑ์ศิลปกรรมแห่งชาติ และสถาบันช่างศิลป์ท้องถิ่น ทั้งนี้ ในส่วนของสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง มีท่านศาสตราจารย์กำพล ปัญญาโกเมศ อธิการบดีสถาบันบัณฑิต พัฒนบริหารศาสตร์ ทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสถาบันเศรษฐกิจพอเพียง อีกตำแหน่งด้วย
ปลัด อว.กล่าวต่อไปว่าการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงาน อันได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จะทำให้เกิดการต่อยอดและขยายผลองค์ความรู้ในด้านการวิจัยและศึกษาเพื่อแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ ด้วยการประยุกต์ใช้แนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เกิดการบูรณาการการทำงานร่วมกันในการพัฒนาพื้นที่ และแก้ปัญหาสำคัญของพื้นที่ด้วยการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งนำไปสู่การพัฒนาโมเดลสำหรับการขยายผลให้เกิดความยั่งยืนในอนาคต และขยายผลเพื่อการปรับนำไปใช้ในพื้นที่อื่นๆ ต่อไป
นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ จะเป็นประโยชน์แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นอย่างมาก ที่จะได้นำองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญของกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ มาบูรณาการการดำเนินงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ไปสู่ชุมชนอย่างยั่งยืน
นายยอดพจน์ วงศ์รักมิตร ประธานกรรมการธรรมาภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน กล่าวว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้ เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไปสู่ชุมชน ซึ่งจะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีหากเกิดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง ทั้งภายใน และภายนอกแก่ชุมชนอย่างยั่งยืน ดังจะเห็นได้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจะชี้ให้เห็นแนวทางการดำรงอยู่และพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นายภาณุมาศ ลิ้มสุวรรณ รองผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือที่เกิดขึ้นประกอบไปด้วยวัตถุประสงค์ 3 ประการ ได้แก่ (1) พัฒนาความร่วมมือในการวิจัยและศึกษาเพื่อแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ ด้วยการประยุกต์ใช้แนวคิดปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมทั้งการพัฒนาแนวพระราชดำริด้านต่าง ๆ (2) พัฒนาความร่วมมือในการบูรณาการการทำงานพัฒนาพื้นที่ เพื่อแก้ปัญหาสำคัญของพื้นที่ด้วยการประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พัฒนาโมเดลสำหรับการขยายผลให้เกิดความยั่งยืนในอนาคตและขยายผลเพื่อการปรับนำไปใช้ในพื้นที่อื่น ๆ และ (3) พัฒนาความร่วมมือส่งเสริมการพัฒนาสู่องค์กรต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียงของ PEA และการสนับสนุนการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคของนิด้าตามแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน
“การรวมพลังกันในครั้งนี้ นับว่าเป็นการบูรณาการทั้งองค์ความรู้ทั้งทางด้านการศึกษา การวิจัย การเชื่อมโยงเครือข่ายนักวิชาการ/นักวิจัยด้านเศรษฐกิจพอเพียงนำไปสู่การถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งทั้ง 3 หน่วยงานต่างโชว์ศักยภาพและดึงเอาความถนัดของแต่ละองค์กรออกมา เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง อันนำไปสู่ความกินดี อยู่ดี เสริมสร้างความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทย และทำให้เศรษฐกิจไทยก้าวไกลไปสู่ระดับสากลในอนาคต”
เผยแพร่ข่าว : นายธัชนนท์ บุญหล้า
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3728 - 3732 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.