31 มีนาคม 2565 กรุงเทพ ฯ – สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) (GISTDA), ศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ ฯ และ บริษัท ซิกเนเจอร์ มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เทคโนโลยี จำกัด ร่วมกันจัดงานแถลงข่าว ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 กระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และ นวัตกรรม ถึงเป้าหมาย 7 ประการ ของคณะทำงานในโครงการทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทย รุ่นที่ 3 ในการเดินทางไปเยือนศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ ฯ และศูนย์ข้อมูลข่าวสารนาซา, มหาวิทยาลัยแอละแบมาแห่งเมืองฮันส์วิลล์, NASA ศูนย์การบินอวกาศนายพล Marshall, และศูนย์ประสานงานวิทยาศาสตร์ในความร่วมมือระหว่าง NASA และสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศสหรัฐ (USAID) โครงการ SERVIR ในระหว่างวันที่ 21 เมษายน ถึง 1 พฤษภาคม 2565
คณะทำงานของโครงการทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทย รุ่นที่ 3 ที่จะเดินทางไปยังเมืองฮันส์วิลล์ ของรัฐแอละแบมา ซึ่งเป็นเมืองต้นกำเนิดองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ NASA และ เป็นเมืองที่อุตสาหกรรมหลักคือ การผลิตจรวดทุกประเภท ประกอบไปด้วย นายกฤษณ์ คุนผลิน ผู้แทนศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ ฯ ผศ.ดร.เสริมศักดิ์ อยู่เย็น คณบดีวิทยาลัย อุตสาหกรรมการบินนานาชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
นักเรียนทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทย 4 คน ได้แก่ นักเรียนนายเรืออากาศ จิรภัทร คำนิล, นางสาวชนิศา พร้อมพัฒนภักดี, นายถิรวัฒน์ บุญสร้าง และ นายกันตพิสิฐ ลิ้มศุภพุฒิกุล อาจารย์สอนด้านฟิสิกส์ จากสถาบันออนดีมานด์ เอ็ดดูเคชั่น 2 ท่าน ได้แก่ อาจารย์ ภัทรพล ไพศาลภาณุมาศ และ อาจารย์สรณภพ เทวปฏิคม ด.ญ.พรปวีณ์ ม้วนหรีด ตัวแทนเยาวชน Artemis Generation (ประเทศไทย); ศิลปิน BNK48 ที่มีพื้นฐานและสนใจด้านวิทยาศาสตร์ 2 คน ได้แก่ นางสาวเฌอปราง อารีย์กุล และ นางสาวกวิสรา สิงห์ปลอด
ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า บทบาทของอวกาศในศตวรรษที่ 21 แตกต่างจากศตวรรษที่ผ่านมาอย่างสิ้นเชิง ในศตวรรษนี้ ทั้งภาครัฐ และเอกชนทั่วโลกได้สนใจการใช้ประโยชน์คุณค่าจากอวกาศขยายเขตแดนธุรกิจอวกาศมากยิ่งขึ้น ความเคลื่อนไหวของทุกภาคส่วนล้วนเป็นประจักษ์หลักฐานที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขตแดนอวกาศเป็นโอกาสของมวลมนุษยชาติ ที่กำลังขยายและเติบโตอย่างรวดเร็ว อวกาศไม่ใช่แค่การประยุกต์ใช้งานเพียงการนำทางด้วยดาวเทียมนำทางหรือ GNSS การพยากรณ์อากาศ การติดตาม PM2.5 หรือการทำ smart agriculture แต่รวมไปถึง การสร้าง ออกแบบ ผลิตดาวเทียม ผลักดัน พรบ.กิจการอวกาศการสำรวจ วิจัยทดลองในอวกาศ การสร้างอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับดาวเทียม หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องการกำลังคนแรงงานที่มีความสามารถ เพื่อจะเข้าสู่ธุรกิจอวกาศและจะนำไปสู่ตลาดอาชีพใหม่ และโครงการนี้เป็นโครงการสำคัญ อีกโครงการหนึ่งที่มีเป้าหมายสำหรับเตรียมความพร้อมให้คนไทยสามารถสร้างอาชีพใหม่ในอนาคตด้านอวกาศ ตลอดจนนำไปสู่การใช้ประโยชน์วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีอวกาศ เพื่อการพัฒนาเข้าสู่อุตสาหกรรม นวัตกรรมและเทคโนโลยีอวกาศแบบก้าวกระโดดและจะส่งผลให้อวกาศไม่ได้ไกลอย่างที่คิด แต่เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ตลอดจนการกระตุ้นสร้างแรงบันดาลใจสานต่อความฝันให้คนรุ่นใหม่ขยายวงกว้างเข้ามาโลดแล่นในวงการอุตสาหกรรมอวกาศมากยิ่งขึ้น
ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า “อวกาศเป็นเรื่องที่ไม่ไกลตัวอีกต่อไป” กิจการอวกาศมีเรื่องที่น่าสนใจมากมายที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของธุรกิจและอุตสาหกรรมอวกาศในระดับโลกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับเป็นโอกาสที่ดี ในการสร้างห่วงโซ่อุปทานใหม่ของกิจการอวกาศ เพื่อรองรับภาคธุรกิจภายในประเทศที่มีการขยายตัวและเกิดธุรกิจภาคเอกชน รวมถึงความร่วมมือกับนานาชาติในวงกว้าง เพื่อตอบโจทย์ความท้าทายของอุตสาหกรรมอวกาศในประเทศ ทั้งเรื่องการสนับสนุน Supply Chain ของอุตสาหกรรมอวกาศ การสร้างความได้เปรียบและการพัฒนากำลังคนบุคลากรด้านอวกาศ GISTDA มีฐานะเป็นองค์กรด้านกิจการอวกาศของประเทศเป็นหน่วยงานหลักที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและส่งเสริมให้เกิดอุตสาหกรรมอวกาศ หรือ Space Industry โดย GISTDA มีความพร้อมทุกมิติแบบครบวงจรด้านนวัตกรรมและโครงสร้างพื้นฐานกิจการอวกาศของประเทศ อาทิเช่น Lab ด้านการออกแบบผลิตและทดสอบวัสดุด้านการบินและอวกาศ ที่ได้รับรองตามมาตรฐานสากล สถานที่ใช้ประกอบและทดสอบดาวเทียมเล็กของประเทศซึ่งสามารถรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมด้านอวกาศในอนาคตได้ ตลอดจนโครงการ THOES-2 ที่จะหลอมรวมเป็นเครื่องมือสร้างและยกระดับเพิ่มขีดสามารถการพัฒนากำลังคนทุกช่วงวัยให้มุ่งสู่ความสำเร็จเพื่อสร้างอาชีพต่อไป
ขณะที่ นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“FPT”) กล่าวว่า “ด้วยเจตนารมย์ของ FPT ที่ให้คุณค่าต่อการเรียนรู้และสั่งสมประสบการณ์ เพื่อสร้างสรรค์สังคมอย่างยั่งยืน บริษัทฯ มีความยินดีที่ได้ร่วมส่งเสริมให้นักเรียนทุนทั้ง 4 พร้อมคณะ ได้เดินทางไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ในโอกาสพิเศษที่จะได้เรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีโดยตรงจากองค์กรระดับโลก โดย FPT หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการเข้าร่วม Space Camp และการทัศนศึกษาที่ศูนย์อวกาศ NASA ในครั้งนี้จะจุดประกายแรงบันดาลใจ ช่วยเพิ่มพูนความรู้ความสามารถ และสร้างประโยชน์ให้กับผู้รับทุนในด้านการศึกษา และการประกอบอาชีพในอนาคต”
ด้าน รศ.เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อสมท. มีความยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เยาวชนไทยในครั้งนี้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์และพันธกิจของ อสมท. ในการส่งเสริมสังคมฐานความรู้ ซึ่งเป็นรากฐานในการพัฒนาศักยภาพของคนและสังคมอย่างยั่งยืน การศึกษาและค้นคว้าเกี่ยวกับเรื่องอวกาศไม่ใช่เรื่องไกลตัว ไม่ว่าจะเป็นปรากฏการณ์สุริยุปราคา, สภาวะโลกร้อน, ระบบส่งสัญญาณคลื่นความถี่และการใช้ดาวเทียมสื่อสารในการตรวจสภาพภูมิอากาศ ล้วนมาจากการค้นพบในอวกาศทั้งสิ้น อสมท. จึงมีความยินดีอย่างยิ่งในการร่วมสนับสนุนให้เยาวชนไทยมีทักษะด้านวิทยาศาสตร์ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ให้ได้เรียนรู้กระบวนการทำงานจริงของนักบินอวกาศและพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของโลกในอนาคต
ส่วน บริษัท ออนดีมานด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด นายสุธี อัสววิมล ผู้ร่วมก่อตั้ง กล่าวว่า การเรียนรู้เทคโนโลยีอวกาศ ปัจจุบันนี้เป็นเรื่องที่ไม่ได้ไกลตัวอีกต่อไปแล้ว และยังเป็น 1 ใน 5 พื้นที่ที่บอกถึงความมั่นคงและความมั่งคั่งของประเทศ คือทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ ทางอวกาศและทางไซเบอร์ ดั้งนั้นโครงการนี้จึงเป็นโครงการที่ช่วยจุดประกายในการพัฒนาเยาวชนของชาติให้มีความพร้อมสำหรับประเทศไทย ซึ่งทางเครือบริษัท learn corporation และออนดีมานด์เอ็ดดูเคชั่น ในฐานะที่เป็นเครือบริษัทที่เน้นด้านการศึกษาเพื่อพัฒนาประเทศ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะร่วมสนับสนุนโครงการนี้อย่างเต็มที่
สำหรับ ผศ.ดร.เสริมศักดิ์ อยู่เย็น คณบดีวิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าวว่า โครงการค้นพบนักบินอวกาศไทยเป็นหนึ่งในโครงการที่เป็นเวทีให้เยาวชนได้เข้าถึงเพื่อก้าวเป็นผู้นำด้านอวกาศในอนาคต นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมหลายอย่างที่เป็นส่วนหนึ่งในการศึกษาหลักสูตรวิศวกรรมการบินและอวกาศ (Aerospace Engineering) ที่เปิดสอนที่วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังเพื่อส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอวกาศขั้นสูงต่อไป
ด้าน ดร.พีรนันท์ โตวชิรภรณ์ ผู้อำนวยการ NASA SERVIR-Mekong ประจำประเทศไทย กล่าวว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ให้โอกาสเยาวชนไทยได้เข้าถึงและเรียนรู้กับนาซา ทาง Asian Disaster Preparedness Center (ADPC) และ SERVIR-Mekong จะยังทำงานกับรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและนาซาต่อไป และจะขอเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่เยาวชนและนักวิทยาศาสตร์ไทยจะได้ใช้ข้อมูลจากนาซาหรือกระทั่งร่วมงานกับนาซาในอนาคตในส่วนของผู้ริเริ่ม ก่อตั้งและบริหารโครงการทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทย หรือ Discover Thailand’s Astronauts Scholarship Program (DTAS) นั้น นายกฤษณ์ คุนผลิน ผู้แทนศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐ ฯ ชี้แจงว่า เป้าหมายหลัก 7 ประการในการเดินทางไปครั้งนี้คือ การแสวงหาความร่วมมือเพิ่มเติมจาก NASA, U.S. Space & Rocket Center, University of Alabama in Huntsville และองค์กรหรือบริษัทด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูงของสหรัฐอเมริกาในการศึกษาด้าน 1. STEAM-Space, 2. การแลกเปลี่ยนบุคลากรชั้นนำ โดยเฉพาะด้าน deep tech, 3. การร่วมจัดนิทรรศการ ด้านวิทยาการและธุรกิจอวกาศ, 4. การสำรวจอวกาศร่วมกัน, 5. การวิจัยและพัฒนา STEAM-Space, 6. ธุรกิจการค้าในสินค้าเทคโนโลยีชั้นสูง และ 7. โครงการสีเขียวผ่านนโยบายจากอวกาศสู่ชาวบ้าน หรือ From Space To Villagers ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมของคนในประเทศร่วมกับมิตรประเทศให้คนไทยพร้อมต่อยุคเศรษฐกิจอวกาศใหม่ที่ไม่มีประเทศไหนในโลกที่จะสามารถหนีพ้นไปได้
โครงการทุนการศึกษาค้นพบนักบินอวกาศไทยก่อตั้งขึ้นด้วยทุนสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ฯ ผ่านสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2558 ทั้งนี้ ทุนในการดำเนินการของรุ่นที่ 3 ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน), บริษัท ออนดีมานด์ เอ็ดดูเคชั่น จำกัด และสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA โดยมี บริษัท ซิกเนเจอร์ มาร์เก็ตติ้ง แอนด์ เทคโนโลยี จำกัด (ZMT) เป็นผู้บริหารโครงการ ฯ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.