(11 เมษายน 2565) สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยแลนวัตกรรม (สป.อว.) โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต (ศปท.อว.) จัดกิจกรรม “ประกาศเจตจำนงสุจริต” ในการบริหารงาน นำโดย ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย ผู้บริหาร และบุคลากร สป.อว. ได้ร่วมประกาศเจตนารมณ์ในการปฏิบัติหน้าที่และบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต โปร่งใส และตรวจสอบได้ตามแนวทางคุณธรรมและจริยธรรมอย่างเต็มกำลังความสามารถบนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาล โดยมุ่งมั่นสร้างวัฒนธรรมองค์กร สป.อว. ที่ไม่ทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบ โดยมีนายเฉลิมชัยวงค์ บริรักษ์ และนายสราวุฒิ เศรษฐกร เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช. ให้เกียรติร่วมเป็นสักขีพยานและได้จัดการอบรมเสริมสร้างความรู้ เรื่อง “การคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม หรือผลประโยชน์ทับซ้อน” เพื่อให้บุคลากร สป.อว. มีความรู้ความเข้าใจ สามารถคิดแยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม หรือผลประโยชน์ทับซ้อนในการปฏิบัติราชการ สามารถนำแนวคิดการบริหารจัดการระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม หรือผลประโยชน์ทับซ้อน ไปเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานได้สอดคล้องกับประมวลจริยธรรมข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2564 และมาตรการส่งเสริมคุณธรรมและความโปร่งใสภายในหน่วยงานของ สป.อว. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ตลอดจนปลูกจิตสำนึกบุคลากรที่ไม่ทนและไม่เพิกเฉยต่อปัญหาการทุจริตและร่วมต้านการทุจริตในทุกรูปแบบ โดยการจัดกิจกรรมดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบของ สป.อว. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และแผนบริหารความเสี่ยงการทุจริตและประพฤติมิชอบของ สป.อว. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ตลอดจนนโยบายการไม่รับของขวัญ (No Gift Policy) ที่ผู้บริหารและบุคลากร สป.อว. ทุกคน จะไม่รับของขวัญและของกำนัลทุกชนิดจากการปฏิบัติหน้าที่
ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ กล่าวว่า จากรายงานของรองหัวศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริต ได้กล่าวถึงความเป็นมาของการจัดอบรมในวันนี้นั้น ผมเห็นด้วยว่า การกระทำผิดกฎหมายเรื่องผลประโยชน์ขัดกันระหว่าง "ผลประโยชน์ส่วนตัว" กับ "ผลประโยชน์ส่วนรวม" ในการดำรงตำแหน่งของเจ้าหน้าที่รัฐ หรือ "ผลประโยชน์ทับซ้อน" เป็นปมรากสำคัญของปัญหาการทุจริตที่เกิดขึ้นในระบบราชการไทย การจัดการผลประโยชน์ทับซ้อนในองค์กรจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะการปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวม โปร่งใส ตรวจสอบได้ ยึดหลักคุณธรรมและสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจ หากมีประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อนเกิดขึ้น
เพื่อให้สามารถนำหลักการและแนวทางที่ได้รับจากการอบรมในวันนี้ ไปขยายผลสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม บนพื้นฐานของการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีธรรมาภิบาล ผมจึงขอ "ประกาศเจตจำนงสุจริตในการบริหารงาน" เพื่อเป็นมาตรฐานและแนวทางปฏิบัติ สำหรับข้าราชการและบุคลากร ให้ยึดถือ ปฏิบัติ และร่วมกันขับเคลื่อนสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้เป็นองค์กรที่ไม่ทนต่อการทุจริต มีคุณธรรม และความโปร่งใสในการบริหารงาน ดังนี้
1. เปิดเผยข้อมูลผลการดำเนินงานภารกิจของหน่วยงาน
2. ปฏิบัติราชการอย่างเต็มประสิทธิภาพ ภายใต้กฎหมาย ระเบียบ และวิธีการที่ถูกต้อง
3. ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่ เอื้อประโยชน์ต่อตนเองหรือบุคคลใกล้ชิด
4. สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ไม่ยอมรับการทุจริตทุกรูปแบบ
5. มีมาตรฐานการปฏิบัติงานตามภารกิจที่ชัดเจน
โดยประเด็นดังกล่าวข้างต้น ถือเป็นองค์ประกอบในการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity Transparency Assessment หรือ ITA) ที่ครอบคลุมการปฏิบัติราชการในทุกมิติ ตั้งแต่การดำเนินงานขององค์กร การตอบสนองข้อร้องเรียน ความรับผิดชอบตามกฎหมายและบทบาทหน้าที่ การรับรู้การทุจริตคอร์รัปชัน วัฒนธรรมองค์กร การบริหารงานบุคคล การบริหารงบประมาณ และการมอบหมายงาน ซึ่งล้วนแต่มีความสำคัญ และสามารถสะท้อนให้เห็นถึงคุณลักษณะที่ดีในการดำเนินงานที่มีคุณธรรมและมีธรรมาภิบาล ที่บุคลากรพึงจะต้องมีและยึดถือปฏิบัติได้เป็นอย่างดี
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.