ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วยคณะท่านทูตจากสหพันธรัฐรัสเซีย สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล และราชอาณาจักรภูฏาน ได้เข้าร่วมแสดงความยินดีกับบัณฑิต/มหาบัณฑิตในงานพิธีประสาทปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา 2565 ของมหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ อิมแพค อารีน่า เมืองทองธานี โดยมี ดร.อภิเทพ แซ่โคว้ รักษาการอธิการบดี มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด พร้อมคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและร่วมหารือพูดคุย ถึงแนวทางการพัฒนาด้านการศึกษาและหลักสูตรเพื่อยกระดับการศึกษาในประเทศสู่ความเป็นนานาชาติ
ดร.อภิเทพ กล่าวว่า ในปีการศึกษานี้ มีบัณฑิต/มหาบัณฑิตสำเร็จการศึกษารวม 1,360 คน จากหลากหลายประเทศมากถึง 46 ประเทศ ถือได้ว่าเป็นความสำเร็จในพันธกิจที่สำคัญของมหาวิทยาลัย ด้าน “Internationality” ความเป็นนานาชาติ และดร.ดนุช กล่าวถึงนโยบายและทิศทางของกระทรวงอุดมศึกษาฯ ในการยกระดับการศึกษาไทยสู่ความเป็นนานาชาติระดับสากลว่า สถาบันอุดมศึกษาไทยต้องพิจารณาส่งเสริมการแลกเปลี่ยนด้านการวิจัย แลกเปลี่ยนคณาจารย์ และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ ให้มากยิ่งขึ้น และในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาเรามีนักศึกษาต่างชาติเข้ามาเรียนในประเทศไทยมากขึ้น ถือเป็นโอกาสและทิศทางที่ดีของสถาบันอุดมศึกษาไทยในการยกระดับคุณภาพการศึกษาสู่ระดับสากลเพื่อให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านการศึกษาในภูมิภาคต่อไป
เผยแพร่โดย : นางสาวพรชิตา รุกขชาติ
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3972 โทรสาร 0 2333 3834
e-mail : pr@mhesi.go.th
Facebook : @MHESIThailand
Twiiter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.