9 มีนาคม 2566 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA และสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยสำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมชลประทาน, กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยกรมอุตุนิยมวิทยา, กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมภูมิสารสนเทศเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยแล้ง โดยงานนี้ได้รับเกียรติจากศาสตราจารย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว., นายขจร เราประเสริฐ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย, นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และนายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็นผู้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพมหานคร
ศาสตราจารย์สิริฤกษ์ ปลัดกระทรวง อว. กล่าวว่า วันนี้เป็นโอกาสที่ 5 หน่วยงานหลักของประเทศในระดับกระทรวง ได้แก่ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และกระทรวง อว. รวมทั้งหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้องได้มาลงนามในบันทึกความร่วมมือทางด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมภูมิสารสนเทศ ซึ่งความร่วมมือในด้านนี้ได้เกิดขึ้นจริงและเห็นผลแล้ว โดยความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการแสดงถึงการทำงานร่วมกัน
ประเทศไทยเป็นประเทศทั้งในแง่เกษตรกรรม อุตสาหกรรม และอุตสาหกรรมบริการ เรื่องน้ำเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ การจัดการน้ำในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องการจัดการภัยแล้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นโดยตลอดความจริงประเทศไทยจัดการเรื่องนี้ได้ดีแต่หากจัดการได้ดีกว่านี้ก็จะดียิ่งขึ้นไปอีกเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางด้านภูมิสาระสนเทศการใช้เทคโนโลยีใหม่ใหม่ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีในระดับพื้นที่ รวมทั้งการใช้ข้อมูลจากดาวเทียมมาประกอบจะทำให้สามารถจัดการปัญหาได้ดีขึ้นดังนั้นจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและทุกพื้นที่
ในฐานะกระทรวง อว. ที่มีหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้อง 2 หน่วยงาน ได้แก่ จิสด้า ซึ่งเป็นหน่วยงานทางวิชาการดูแลข้อมูลทางด้านภูมิสารสนเทศ การใช้ข้อมูลสำรวจในด้านต่าง ๆ การจัดทำแผนที่ภูมิสารสนเทศ จะมีข้อมูลประกอบและนักวิชาการที่เกี่ยวข้อง เป็นจำนวนมาก ส่วนสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ วช. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการสนับสนุนทางด้านการวิจัยเป็นหน่วยงานที่สนับสนุนทุนวิจัยสำหรับการปฏิบัติงานในโครงการนี้ ในด้านของกระทรวง อว. รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เห็นการทำงานในด้านต่าง ๆ ที่สามารถเอางานทางด้านวิชาการ ข้อมูลเทคโนโลยีที่ดีที่สุด เหมาะสมที่สุดมาใช้ในแง่ของการจัดการ ดูแลปัญหาที่เกิดขึ้น รวมถึงการคาดการณ์ พยากรณ์ ป้องกันและดูแลติดตามปัญหาที่เกิดขึ้น ปลัดกระทรวง อว. กล่าวทิ้งท้าย
ความร่วมมือครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนการใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มประเมินพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งของพืชเกษตรรายแปลงด้วยเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ สำหรับการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในภาคการเกษตร ภัยพิบัติ รวมทั้งการบริหารจัดการน้ำ เพื่อให้เกษตรกรและประชาชนทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงข้อมูล ข้อเท็จจริง ที่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์จากดาวเทียม ในการเตรียมพร้อมรับมือและแก้ไขปัญหาผลกระทบจากภัยแล้ง อีกทั้งหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ และหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านนโยบาย ยังสามารถใช้เป็นข้อมูลสนับสนุนการตัดสินใจในการช่วยเหลือและฟื้นฟูผู้ประสบภัยแล้ง ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลที่อยู่ภายใต้การประเมินความเสียหายด้วยเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ
ที่ผ่านมา การประกาศภัยแล้ง อาศัยข้อมูลปริมาณน้ำฝนของกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งมีการรายงานสภาวะฝนทิ้งช่วงอย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูกาลเพาะปลูก เพื่อประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้งในระดับจังหวัด โดยให้เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรเพื่อขอรับเงินชดเชยผู้ประสบภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องมีการตรวจสอบและยืนยันความเสียหายก่อน จึงจะสามารถดำเนินการจ่ายค่าชดเชยให้แก่เกษตรกรได้ ทำให้ต้องใช้บุคลากร งบประมาณ และระยะเวลาในการสำรวจพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเสียหาย การร่วมมือในครั้งนี้ เริ่มดำเนินการให้พื้นที่นำร่อง 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา สกลนคร ร้อยเอ็ด สุรินทร์ กำแพงเพชร และอุทัยธานี ซึ่งจะเป็นการนำเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศและข้อมูลดาวเทียมมาวิเคราะห์และพัฒนาเป็นแพลตฟอร์มเพื่อประเมินพื้นที่เสี่ยงภัยแล้งและความเสียหายของพืชเกษตรรายแปลง แบบอัตโนมัติ เพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับหน่วยงานทั้งระดับปฏิบัติการและระดับนโยบาย ได้นำไปใช้ในการวางแผนและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นเครื่องมือให้กับภาคประชาชนได้เข้าถึงเพื่อการรับรู้และการติดตามสถานการณ์ภัยแล้งของประเทศต่อไป
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.