เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) เปิดเผยว่า ตนได้รายงานเรื่องการเดินทางไปราชการที่ประเทศสหรัฐอเมริกาให้กับ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.กระทรวง อว. ว่า ตนได้เข้าพบและร่วมประชุมกับนายจาเรด โพลิส ผู้ว่าการรัฐโคโลราโดและนายไมเคิล จอห์นสตัน นายกเทศมนตรีนครเดนเวอร์ และเป็นประธานประชุมเครือข่ายนักวิชาชีพไทยในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ร่วมกับนายธานี แสงรัตน์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ที่นครเดนเวอร์ มลรัฐโคโลราโด เนื่องในโอกาสวาระครบรอบ 190 ปี ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ และครบ 10 ปีความตกลงความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และวิชาการระหว่างไทย-สหรัฐฯ ทั้งนี้ผู้ว่าการรัฐโคโลราโดและนายกเทศมนตรีนครเดนเวอร์สนใจที่จะขยายความสัมพันธ์กับประเทศไทย โดยเฉพาะในด้านการอุดมศึกษาและด้านนวัตกรรม นอกจากนี้ยังได้เป็นประธานในการประชุมประจำปีของเครือข่ายนักวิชาชีพไทยในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ประจําปี 2566 โดยมีเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ร่วมกับประธานและผู้แทนจากสมาคมด้านวิชาชีพของไทยในสหรัฐฯ ที่มีบทบาทในระดับชาติ และผู้บริหารหน่วยงานหลักด้านอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของไทย เพื่อต่อยอดผลลัพธ์การประชุมคณะกรรมการร่วมไทย-สหรัฐฯ ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไทย-สหรัฐฯ ครั้งที่ 3 รวมทั้งหารือแผนงานสำคัญ และแลกเปลี่ยนความรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของนักวิชาชีพไทยในสหรัฐฯ
ปลัดกระทรวง อว.ได้รายงาน รมว.อว. ด้วยว่าการเดินทางไปต่างประเทศเป็นการปฏิบัติราชการตามภารกิจของกระทรวงซึ่งดูแลภารกิจสำคัญ 4 ด้าน ทั้งด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยมีมหาวิทยาลัยและสถาบันวิจัยรวมกว่า 200 แห่งในสังกัด ซึ่งเกิดผลงานที่มีประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม เพราะความร่วมมือกับต่างประเทศมีความสำคัญเป็นอย่างมากในการยกระดับการพัฒนาวิชาการในด้านนี้ของประเทศไทยและนำวงการวิชาการไทยสู่สากล โดยการเดินทางไปต่างประเทศมีจำนวน ภารกิจและองค์ประกอบที่เหมาะสม ซึ่งในช่วง 3 ปีตนได้เดินทางร่วมคณะกับรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเพื่อการดูแลประสานภารกิจในภาพรวมของกระทรวง 18 ครั้ง ได้รับมอบเป็นผู้แทนของรัฐมนตรี 4 ครั้ง เป็นหัวหน้าคณะในการประชุมระดับนานาชาติ เอเปก อาเซียน 6 ครั้ง และปฏิบัติหน้าที่ประธานและกรรมการของหน่วยงาน 4 ครั้ง โดยเป็นไปตามภารกิจของกระทรวงและหน่วยงานในสังกัด ซึ่งการประชุมหารือกับแต่ละประเทศได้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม เช่น สามารถขับเคลื่อนโครงการซินโครตรอนเครื่องใหม่กับประเทศญี่ปุ่น การติดตามการสร้างและทดสอบดาวเทียมธีออส-2 กับประเทศฝรั่งเศสที่กำลังจะปล่อยขึ้นสู่วงโคจรในเดือน ต.ค.นี้, การตกลงร่วมมือใช้ดาวเทียมสำรวจกับประเทศญี่ปุ่นและจีน, การพัฒนาบุคลากรร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านใน CLMV โดยเฉพาะกับลาว กัมพูชาและเมียนมา การเชื่อมโยงนวัตกรรมทางการแพทย์และการเกษตรระหว่างอิสราเอลกับประเทศไทย การจัดตั้งศูนย์วิจัยร่วมกับวิทยสถานสังคมศาสตร์จีน รวมทั้งกิจกรรมกับเครือข่ายสมาคมนักวิชาชีพและนักศึกษาไทยทั้งในอเมริกาและยุโรปทำให้เกิดโครงการพัฒนามาตรฐานของหลักสูตรระดับอุดมศึกษาของประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เป็นต้น ส่วนงบประมาณที่ใช้นั้นเหมาะสมตามภารกิจและตามระเบียบ
ปลัดกระทรวง อว. รายงานเพิ่มเติมว่าในส่วนประเด็นการบริหารงานบุคคลตามที่ปรากฎในสื่อนั้น กระทรวง อว. ได้รับบัตรสนเท่ห์กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายและการบริหารเป็นระยะ คล้ายกับกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ ซึ่งรัฐมนตรีและผู้บริหารได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและได้รายงานชี้แจงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วเป็นระยะ ประเด็นที่ปรากฏในสื่อนั้นส่วนใหญ่เป็นเรื่องเดิมที่ได้มีการตรวจสอบและชี้แจงข้อมูลแล้ว โดยได้คำนึงถึงข้อเท็จจริงและให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย ทั้งนี้หากมีประเด็นใดเพิ่มเติม ท่านรัฐมนตรี อว.สามารถตรวจสอบได้
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.