สำนักงานปลัดกระทรวง อว. รวมพลังอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาค เดินหน้าพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค นำร่อง 7 เทคโนโลยี ผนึกรัฐ - เอกชน - อุดมศึกษา – ประชาสังคม ภาคเหนือชูอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ดิจิทัล ท่องเที่ยว เกษตรและอาหาร อีสานดันชีวภาพ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ภาคกลาง/ตะวันตกลุยเทคโนโลยีเซ็นเซอร์ AI ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ภาคใต้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมโอลีโอเคมี
เมื่อวันที่ 30 ต.ค. กลุ่มอุทยานวิทยาศาสตร์ (กอ.) สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม(อว.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม(สกสว.) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และอุทยาน วิทยาศาสตร์ภูมิภาค จัดงาน “ประสานพลัง 4 ระเบียงเศรษฐกิจ : ยุทธศาสตร์ นวัตกรรมและพลังร่วมเพื่อการเติบโตของภูมิภาค (Synergise 4 Economic Corridors: Strategy, Innovation and Synergy Directive for Regional Economic Growth)” ที่โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว กรุงเทพ เอเทรียม
ดร.วัฒนจักร พุ่มวิเศษ ผู้อำนวยการกลุ่มอุทยานวิทยาศาสตร์ (กอ.) กล่าวถึงความก้าวหน้า ของโครงการที่ดำเนินงานภายใต้แผน ววน. ว่า โครงการพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค ได้บรรลุเป้าหมายที่สำคัญในการสร้างรากฐานทางเทคโนโลยีเชิงลึก โดยเราสามารถสร้าง 56 โครงการ พัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเชิงลึกที่พร้อมเข้าสู่เชิงพาณิชย์และพัฒนาศักยภาพบุคลากรที่มีความเชี่ยว ชาญสูงด้าน 7 เทคโนโลยี ประกอบด้วย เทคโนโลยีดิจิทัลสร้างสรรค์ เทคโนโลยีการสกัด เทคโนโลยีพลาสมา เทคโนโลยีพลังงานและเคมีชีวภาพ เทคโนโลยีอากาศยานไร้คนขับและอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ เทคโนโลยีอัจฉริยะ และเทคโนโลยีโอลิโอเคมิคอล จำนวน 168 ราย ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศและคาดการณ์ว่ากลยุทธ์การขับเคลื่อนนี้จะสร้างมูลค่าผลกระทบทาง เศรษฐกิจกว่า 4.9 แสนล้านบาท ภายใน 5 ปี
ด้าน ศ.ดร.คมกฤต เล็กสกุล รองผู้อำนวยการ สกสว. ได้เน้นย้ำถึงมิติทางยุทธศาสตร์ ว่า การสนับ สนุนของ สกสว.มุ่งเน้นการใช้กลไกของอุทยานวิทยาศาสตร์ภูมิภาคเป็นจุดเชื่อมโยงงานวิจัยและนวัตกรรม ให้ตรงกับทิศทางการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการบูรณาการเทคโนโลยีเป้าหมาย เช่น Creative Digital (NEC), Biorefinery (NeEC), Digital AI Sensor (CWEC) และ Oleochemical (SEC) เพื่อสร้างระบบ นิเวศนวัตกรรมที่ยั่งยืนในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะนำไปสู่การเป็น “ฐานเศรษฐกิจแห่งอนาคต” ของภูมิภาคอย่าง แท้จริง

สำหรับการจัดงานครั้งนี้เป็นการผนึกกำลังผู้นำในการดำเนินงานระเบียงเศรษฐกิจพิเศษทั้ง 4 ภูมิภาค ได้แก่ ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ (NEC), ดร.จุฬารัตน์ ตันประเสริฐ (CWEC), ผศ.ดร.ปภากร พิทยชวาล (NeEC), และ ผศ.ดร.อนุรักษ์ ถุงทอง (SEC) มาร่วมแสดงศักยภาพของพื้นที่พร้อมทั้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง อาทิ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ตัวแทนผู้เข้าร่วมจากภาคมหาวิทยาลัย ภาคการศึกษา ภาครัฐและเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถามรายละเอียดผลงานเชิงประจักษ์ในแต่ละ ระเบียงเศรษฐกิจ โดยมี ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ อานันทนะ(NEC) เป็นตัวแทนกล่าวว่า ระเบียงเศรษฐกิจ พิเศษทั้ง 4 ภูมิภาคจะแตกต่างจากโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) โดยระเบียงเศรษฐกิจ พิเศษทั้ง 4 ภูมิภาคจะเน้นการเชื่อมการพัฒนากลุ่มจังหวัดกับกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อเพิ่มจีดีพี(GDP) ให้กับกลุ่มจังหวัดและเพิ่มการจ้างงานในพื้นที่ โดยนำร่องใน 7 เทคโนโลยี ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภูมิภาค ประกอบด้วย ภาคเหนือ (NEC) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (NeEC) ภาคกลาง-ตะวันตก (CWEC) และภาคใต้ (SEC) โดยในแต่ละภูมิภาคมีความโดดเด่นและมุ่งเน้นในด้านเทคโนโลยีเป้าหมายที่แตกต่างกันตามอุตสาหกรรมเป้าหมายของระเบียงเศรษฐกิจพิเศษแต่ละภูมิภาค
“ระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ(NEC) ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน และลำปาง อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ดิจิทัล ท่องเที่ยวและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เกษตรและอาหาร ส่วนเทคโนโลยีเป้าหมาย ได้แก่ ดิจิทัลสร้างสรรค์ เทคโนโลยีการสกัด เทคโนโลยีพลาสมา ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (NeEC) ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และหนองคาย อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ ชีวภาพและเกษตรและอาหาร เทคโนโลยีเป้าหมาย ได้แก่ พลังงานและเคมีชีวภาพ อากาศยานไร้คนขับ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ ระเบียงเศรษฐกิจภาคกลาง-ตะวันตก (CWEC) ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี และกาญจนบุรี อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ เกษตรและอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เทคโนโลยีเป้าหมาย ได้แก่ เทคโนโลยีอัจฉริยะ เช่น เซ็นเซอร์ AI ดิจิทัล และไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ (SEC) ได้แก่ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ ชีวภาพ เกษตรและอาหาร ท่องเที่ยวและท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ส่วนเทคโนโลยีเป้าหมาย ได้แก่ โอลีโอเคมีคอล”ผศ.ดร.ธัญญานุภาพ กล่าว
เผยแพร่ข่าว : นางสาวพรชิตา รุกขชาติ
ถ่ายภาพ : นายสุรกิจ แก้วมรกต
สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กลุ่มสื่อสารองค์กร
โทรศัพท์ 0 2333 3700
E-mail : pr@mhesi.go.th
Facebook : MHESIThailand
Instagram : mhesithailand
Tiktok : @mhesithailand
X (Twitter) : @MHESIThailand
YouTube : @MHESIThailand
![]()
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.