ดร.วรินธร สงคศิริ รักษาการผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาการวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) รายงานผลการดำเนินงานในรอบปี 2563 – 2564 ต่อที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธาน โดยระบุว่า บพค.เป็นหน่วยขับเคลื่อนแพลตฟอร์มการพัฒนากำลังคนและสถาบันความรู้ เพื่อเป็นรากฐานที่สำคัญในเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในประเทศอย่างยั่งยืน โดยการพัฒนากำลังคนแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักคือ กำลังคนที่ทำหน้าที่สร้างความรู้และแก้ปัญหาที่นำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ ทั้งนวัตกรรมที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ กระบวนการ ฯลฯ (Brain Power) อีกกลุ่มคือ กำลังคนที่เป็นกำลังขับเคลื่อนงานในองค์กร ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตามบทบาทและภารกิจขององค์กร ซึ่งรวมทั้งกลุ่มคนที่ทักษะสูง และกลุ่มคนที่เป็นแรงงานขับเคลื่อนผลผลิต (Manpower)
1. ระบบผลิตและพัฒนากำลังคนให้มีคุณภาพ ผ่าน 4 แผนงาน ได้แก่ 1) การสร้างระบบบ่มเพาะนักวิจัยระดับหลังปริญญาเอก หลังปริญญาโท และปริญญาโท ที่มีสมรรถนะตรงตามความต้องการและพร้อมทำงานตอบโจทย์อุตสาหกรรมเป้าหมาย บีซีจี พลังงาน ปิโตรเคมี เกษตร อาหารพลังงานและวัสดุชีวภาพ 2) การพัฒนาระบบรองรับการขยายผลหลักสูตรอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาที่เชื่อมโยงสถาบันการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมแบบบูรณาการการเรียนรู้ที่ทำงาน (Work-integrated Learning, WiL) เพื่อพัฒนาบัณฑิตที่มีทักษะและคุณลักษณะตรงกับที่ตลาดงานต้องการ และนำไปสู่การพัฒนาภาคอุตสาหกรรม 3) การสร้างแพลตฟอร์มการพัฒนากำลังคนของกลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) 9 แห่ง ไปปฏิบัติงานภาคอุตสาหกรรม เพิ่มจำนวนอาจารย์ที่พร้อมทำงานกับภาคอุตสาหกรรม และให้นักศึกษามีโอกาสฝึกทำงานในสถานประกอบการจริง รวมถึง 4) การวางแผนกลไกและการสร้างระบบนิเวศในการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญ/ผู้มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศเข้ามาทำงานในประเทศไทย
ดร.วรินธร สงคศิริ รักษาการผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาการวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) รายงานผลการดำเนินงานในรอบปี 2563 – 2564 ต่อที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการสำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธาน โดยระบุว่า บพค.เป็นหน่วยขับเคลื่อนแพลตฟอร์มการพัฒนากำลังคนและสถาบันความรู้ เพื่อเป็นรากฐานที่สำคัญในเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในประเทศอย่างยั่งยืน โดยการพัฒนากำลังคนแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักคือ กำลังคนที่ทำหน้าที่สร้างความรู้และแก้ปัญหาที่นำไปสู่การพัฒนานวัตกรรมใหม่ ทั้งนวัตกรรมที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ กระบวนการ ฯลฯ (Brain Power) อีกกลุ่มคือ กำลังคนที่เป็นกำลังขับเคลื่อนงานในองค์กร ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตามบทบาทและภารกิจขององค์กร ซึ่งรวมทั้งกลุ่มคนที่ทักษะสูง และกลุ่มคนที่เป็นแรงงานขับเคลื่อนผลผลิต (Manpower)
1. ระบบผลิตและพัฒนากำลังคนให้มีคุณภาพ ผ่าน 4 แผนงาน ได้แก่ 1) การสร้างระบบบ่มเพาะนักวิจัยระดับหลังปริญญาเอก หลังปริญญาโท และปริญญาโท ที่มีสมรรถนะตรงตามความต้องการและพร้อมทำงานตอบโจทย์อุตสาหกรรมเป้าหมาย บีซีจี พลังงาน ปิโตรเคมี เกษตร อาหารพลังงานและวัสดุชีวภาพ 2) การพัฒนาระบบรองรับการขยายผลหลักสูตรอุดมศึกษาและอาชีวศึกษาที่เชื่อมโยงสถาบันการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมแบบบูรณาการการเรียนรู้ที่ทำงาน (Work-integrated Learning, WiL) เพื่อพัฒนาบัณฑิตที่มีทักษะและคุณลักษณะตรงกับที่ตลาดงานต้องการ และนำไปสู่การพัฒนาภาคอุตสาหกรรม 3) การสร้างแพลตฟอร์มการพัฒนากำลังคนของกลุ่มมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) 9 แห่ง ไปปฏิบัติงานภาคอุตสาหกรรม เพิ่มจำนวนอาจารย์ที่พร้อมทำงานกับภาคอุตสาหกรรม และให้นักศึกษามีโอกาสฝึกทำงานในสถานประกอบการจริง รวมถึง 4) การวางแผนกลไกและการสร้างระบบนิเวศในการดึงดูดผู้เชี่ยวชาญ/ผู้มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศเข้ามาทำงานในประเทศไทย
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.