อว. จับมือ 3 สมาคมหลักภาคเอกชน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค เผยภายใน 6 เดือน ได้ 17 แผนพัฒนาระดับภาค กลุ่มจังหวัดและระดับจังหวัด นำร่อง 6 จังหวัด “ลำปาง - ตาก - อุดรธานี - ลพบุรี - จันทบุรี - กระบี่” ตั้งเป้าหมาย 2 ปี มีแผนครอบคลุมทั่วประเทศ “เอนก” ใช้ อว.ส่วนหน้า ประสานกับ กกร.จังหวัด เดินหน้าขับเคลื่อนภูมิภาคสอดรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 13 ที่กำลังเริ่มใช้เร็วๆ นี้
(31 มกราคม 2565) ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีลงนาม “บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ด้านการจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนระดับภูมิภาค” ระหว่าง อว. และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาค นำงานด้าน อว. สนับสนุนภาคเอกชน เพิ่มขีดความสามารถยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่ มีนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว. เป็นผู้ร่วมลงนาม และมีผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ผู้แทนสมาคมธนาคารไทยเข้าร่วม ณ สำนักงานปลัด อว. ถ.โยธี กรุงเทพฯ
ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า การจัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนระดับภูมิภาคซึ่ง อว. และ กกร. จะร่วมกันจัดทำขึ้นนี้ เป็นเรื่องที่สำคัญ และเป็นมิติใหม่ของการพัฒนา โดยในการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ระดับต่างๆ อว. มีหน่วยปฏิบัติการส่วนหน้าของ อว. หรือ “อว. ส่วนหน้า” ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเป็นหน่วยประสานงานระหว่างจังหวัดกับสถาบันการศึกษา และหน่วยงานในสังกัด อว. ให้เกิดการพัฒนาและแก้ปัญหาในระดับพื้นที่ ด้วยการบูรณาการศาสตร์ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ที่ผ่านงานวิจัยและพัฒนาจนเกิดนวัตกรรมหลากหลายของสถาบันการศึกษามาใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในระดับชุมชน/ท้องถิ่น ตำบล อำเภอ และจังหวัด
“เมื่อ 70 ปีที่แล้ว ประเทศไทยเริ่มพัฒนาชาติโดยมุ่งพัฒนาส่วนกลางเป็นหลัก ต่อไปนี้เราต้องเริ่มพัฒนาภูมิภาคและท้องถิ่น อว. จะต้องช่วยให้คนในท้องถิ่นรู้เรื่องท้องถิ่นของตนให้มากที่สุด โดยมีทุกภาคส่วนมาร่วมมือกัน โดยเฉพาะภาคเอกชน เพื่อทำให้แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ทั้ง 17 แผน จะสำเร็จตามเป้าหมายภายใน 6 เดือน และให้เห็นภาพการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป” รมว.อว.กล่าว
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) และประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแรงร่วมกันของ อว. และ กกร. ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในระดับภูมิภาค ให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล รวมไปจนถึงแผนพัฒนาประเทศต่างๆ อาทิ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 และฉบับที่ 13 ที่กำลังเริ่มใช้ในเร็วๆนี้ เป็นต้น รวมทั้งแผนในระดับภูมิภาค อาทิ แผนพัฒนาภาค/กลุ่มจังหวัด/จังหวัด เป็นต้น ซึ่งจะเป็นการดำเนินการที่มีส่วนร่วมระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับภาคเอกชน เพื่อให้มีการกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ด้านเศรษฐกิจ สร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้กับพื้นที่ ภายใต้ “แผนพัฒนาเศรษฐกิจภาคเอกชนระดับภูมิภาค” ในระดับต่าง ๆ ทั้งระดับภาค ระดับกลุ่มจังหวัด และระดับจังหวัด
ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัด อว. กล่าวว่า หลังจากการลงนามร่วมกันในครั้งนี้ ภายใน 6 เดือน จะได้แผนสำหรับภาคเอกชนนำไปใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในพื้นที่ 17 แผน ประกอบด้วยแผนระดับภาค 5 แผน (ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้) ระดับกลุ่มจังหวัด 6 แผน (กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 1 ภาคเหนือตอนล่าง 1 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออก 2 และภาคใต้ฝั่งอันดามัน) และระดับจังหวัด 6 แผน (จังหวัดลำปาง ตาก อุดรธานี ลพบุรี จันทบุรี และกระบี่) และตั้งเป้าหมายจะมีแผนครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศภายในระยะเวลา 2 ปี โดย อว. จะสนับสนุนข้อมูล องค์ความรู้ งานวิจัยพัฒนา เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมถึงบุคลากรที่มีศักยภาพ เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์ต่อยอดในภาคธุรกิจ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.