เอกอัครราชทูตโมร๊อกโกเข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ

         ไทยและโมร็อกโกเร่งผลักดันความร่วมมือด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมร่วมกัน โดยเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2565 ศาสตราจารย์พิเศษ เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ (ศาสตราจารย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล) และคณะ ได้ให้การต้อนรับนายอับเดอร์ราฮิม ราห์ฮาลี่ (Mr. Abderrahim Rahhaly) เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรโมร็อกโกประจำประเทศไทย ณ ห้องพระจอมเกล้า อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ โดยทั้งสองฝ่ายได้มีการหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและความร่วมมือทางวิชาการ ดังนี้

- การทบทวนหรือจัดทำกรอบความร่วมมือด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการวิจัยระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กับหน่วยงานด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของโมร็อกโก ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตโมร็อกโกเสนอให้มีการหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของทั้งฝ่ายไทยและโมร็อกโกเพื่อแสวงหา
แนวทางการขยายความร่วมมือในอนาคต

- การส่งเสริมการแลกเปลี่ยนนักศึกษาระหว่างกัน โดยจัดทำการรับรองคุณวุฒิร่วมกันเพื่อใช้ในการสมัครเข้าศึกษาต่อ การขยายเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษาไทยกับโมร็อกโก การจัดทำหลักสูตรร่วม การถ่ายโอนหน่วยกิต และการจัดสหกิจศึกษาร่วมกัน

- การแลกเปลี่ยนข้อมูล องค์ความรู้ และเทคโนโลยีระหว่างกัน ในสาขาที่มีความเชี่ยวชาญและมีความต้องการร่วมกัน เช่น ยา วิศวกรรม ชีววิทยา พลังงานทดแทน และเทคโนโลยีสีเขียว เป็นต้น โดยสามารถดำเนินการผ่านการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง techno park ของไทยกับโมร็อกโก ในสาขาที่ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกัน เช่น BCG ซึ่งหน่วยงานวิจัยของไทยมีความเชี่ยวชาญ และจะมีประโยชน์ต่อโมร็อกโก

- การดำเนินความร่วมมือทางด้านศาสนาและวัฒนธรรม โดยโมร็อกโกเป็นประเทศมุสลิมสายกลาง ซึ่งแนวคิดนี้สามารถช่วยในการลดปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ ทั้งนี้ เอกอัครราชทูตโมร็อกโกยังได้ได้ให้ทุนสนับสนุนนักศึกษาไทยไปอบรมหลักสูตรการอบรมอิหม่ามรวม 6 คน และได้เข้าพบจุฬาราชมนตรีและผู้นำมุสลิมอื่น ๆ ในประเทศไทย นอกจากนี้ โมร็อกโกยังสนใจการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องการเปิดกว้างด้านการนับถือและปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาในประเทศไทยเพื่อนำไปปรับใช้ในโมร็อกโกเพื่อสร้างการยอมรับในความหลากหลายของศาสนาและชาติพันธุ์ในโมร็อกโก ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ เสนอว่าควรจัดให้มีการหารือร่วมกับกลุ่มผู้นำมุสลิมต่าง ๆ ในประเทศไทยเพื่อแสวงหาแนวทางการริเริ่มความร่วมมือทางด้านศาสนาอิสลามกับโมร็อกโก

          ในโอกาสนี้ เอกอัครราชทูตโมร็อกโกได้แสดงความขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ ในโอกาสที่ได้ร่วมหารือความร่วมมือ พร้อมทั้งเรียนเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ และคณะ พร้อมผู้แทนจากสถาบันอุดมศึกษาและหน่วยงานวิจัย ให้เดินทางไปหารือความร่วมมือและเยือนสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนาอิสลามของโมร็อกโก