(12 พฤษภาคม 2565 ) สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) โดย กองส่งเสริมและประสานเพื่อประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กปว.) ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี แถลงข่าวความสำเร็จของโครงการพัฒนาสร้างนวัตกรรมระบบตรวจสอบสาธารณูปโภคใต้ดินกึ่งอัตโนมัติเพื่อการขุดเจาะใต้ดินแบบดันท่อ ภายใต้การสนับสนุนด้านการพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องจักร เครื่องมือและอุปกรณ์ ในโครงการสร้างเครื่องจักรต้นแบบด้วยกระบวนการวิศวกรรมเพื่อการสร้างสรรค์คุณค่า ประจำปีงบประมาณ 2563 จาก สป.อว. ซึ่ง MTEC สวทช. เป็นหน่วยบริหารจัดการโครงการ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.บุญยัง ปลั่งกลาง คณะวิศวกรรมศาสตร์ เป็นหัวหน้าโครงการ โดยมีผู้ประกอบการที่ร่วมโครงการและนำไปใช้ประโยชน์คือ บริษัท เอ็นอาร์ที เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (NRT) 44/9 หมู่ที่ 3 ตำบลคลองสอง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี โดย นายนิรุตติ นิลแก้ว กรรมผู้จัดการ เป็นผู้ร่วมโครงการ
การใช้งานการขุดเจาะใต้ดินด้วยวิธีการดันท่อ (Pipe Jacking) มีอย่างแพร่หลายโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ๆ และในกรุงเทพมหานคร ก็ได้นำ Pipe Jacking มาใช้อย่างกว้างขวาง เนื่องจากงานดันท่อเป็นงานมีผลกระทบต่อการจารจรและสิ่งแวดล้อมค่อนข้างน้อย อย่างไรก็ดีปัญหาหนึ่งในระบบ Pipe Jacking คือการกีดขวางการขุดเจาะของสาธารณูปโภคที่อยู่ใต้ดินก่อนหน้านี้ ซึ่งการขุดเจาะจะต้องไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อระบบใต้ดินที่มีอยู่ก่อนแล้ว ดังนั้นการสำรวจ พื้นที่ก่อนการขุดเจาะ จึงเป็นสิ่งจำเป็น แต่ปัจจุบันนี้ การสำรวจพื้นที่และสาธารณูปโภคใต้ดินก่อนการขุดเจาะจะทำด้วยคน โดยแรงงานคนเจาะลงจนพบสาธารณูปโภคใต้ดินในระดับความลึกต่าง ๆ แล้วจึงมาวางแผนออกแบบการเจาะ ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อระบบใต้ดินที่มีอยู่ อย่างไรก็ดีโดยปกติแล้วในการสำรวจสาธารณูปโภคใต้ดินนั้นจะมีเครื่องสำรวจอยู่ในตลาดแล้ว ซึ่งมีราคาแพง นำเข้าจากต่างประเทศ และจากการใช้งานพบว่า ยังมีข้อผิดพลาดอยู่มาก และต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ ยุ่งยากในการใช้งานมาก จึงยังคงใช้วิธีขุดเจาะสำรวจอยู่ ซึ่งเสียเวลามาก
ดังนั้นโครงการนี้จึงพัฒนาสร้างนวัตกรรมระบบตรวจสอบสาธารณูปโภคใต้ดินกึ่งอัตโนมัติเพื่อการขุดเจาะใต้ดินแบบดันท่อ ซึ่งส่งเสริมมีความปลอดภัย ประหยัดแรงงานและประหยัดเวลา ทำให้ระบบงานดันท่อนี้พัฒนาไปพร้อม ๆ กับการขยายตัวของเมือง เพราะเป็นวิธีที่มีผลกระทบต่อการจราจรและสิ่งแวดล้อมน้อยมาก และการเดินท่อ (Pipe Jacking) มีความแม่นยำมากขึ้น เครื่องนี้จะเป็นต้นแบบเครื่องแรกยังไม่เคยมีใช้มาก่อน
ความสำเร็จของโครงการคือสามารถพัฒนาเครื่องสำรวจตำแหน่งความลึกสาธารณูปโภคเพื่อขุดเจาะใต้ดิน ที่ทำงานด้วยระบบแรงดันน้ำสูง ซึ่งจะมีรูปแบบที่เหมาะสมมีระบบควบคุมแบบกึ่งอัตโนมัติ สามารถควบคุมทิศทางและสามารถใช้กับสาธารณูปโภคได้ทุกรูปแบบ ลดข้อจำกัดต่าง ๆ ได้มากขึ้น ซึ่งเครื่องสำรวจตำแหน่งความลึกสาธารณูปโภคเพื่อการขุดเจาะระบบไฟฟ้าใต้ดิน คุณสมบัติจุดเด่นหรือข้อได้เปรียบคือใช้สำรวจตำแหน่งความลึกสาธารณูปโภคใต้ดินได้ทุกรูปแบบและไม่ต้องใช้แรงงานในการตอกเหล็กในการหาความลึก และตรวจสอบตำแหน่งสาธารณูปโภคแม่นยำและรวดเร็วกว่าใช้แรงงานคน ซึ่งเป็นแบบที่เหมาะสมมากที่สุดและรองรับการใช้งานในเมืองใหญ่ อีกทั้งขนย้ายได้สะดวก ปลอดภัย
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.