เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2567 นายเพิ่มสุข สัจจาภิวัฒน์ ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานเปิดงานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เรื่อง การบูรณาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านงานวิจัย พัฒนานวัตกรรมและการใช้ประโยชน์ ระหว่างสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (สทน.) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และมหาวิทยาลัยราชภัฏ 4 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ มหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย อ่อนจันทร์ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ รศ.มาลิณี จุโทปะมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ ผศ.ดร.ฉลอง สุขทอง อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ ดร.เอกราช ดีนาง รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ผศ.ดร.เชี่ยวชาญ แสงทอง คณบดีคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ผู้แทนรักษาราชการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ เป็นผู้ลงนาม ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัดกระทรวง อว. (โยธี)
นายเพิ่มสุข กล่าวว่า กระทรวง อว. เป็นกระทรวงที่ดูแลและขับเคลื่อนองค์ความรู้ของประเทศ ทั้งการพัฒนากำลังคนขั้นสูง การวิจัยและพัฒนา การนำผลงานวิจัยและพัฒนาไปใช้ประโยชน์ และการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ในการขับเคลื่อนการวิจัย การลงนามความร่วมมือของทั้ง 6 องค์กรในวันนี้ จึงนับเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่องค์กรด้านวิทยาศาสตร์และภาคการศึกษาได้มาสนับสนุนซึ่งกันและกัน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวง ในยุทธศาสตร์ด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เรื่องการพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมยุคใหม่ การส่งเสริมการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม การส่งเสริมความรู้พื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม รวมทั้งตรงกับยุทธศาสตร์ในเรื่องการวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ของประเทศ และสร้างระบบนิเวศการวิจัย
รศ.ดร.ธวัชชัย ผู้อำนวยการ สทน. กล่าวว่า การยกระดับผลิตภัณฑ์อาหารพื้นถิ่นเพื่อให้ผู้บริโภคมีความมั่นใจในคุณภาพและมาตรฐาน ด้วย "เทคโนโลยีและนวัตกรรม" เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญ พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงฯ ในวันนี้ จึงเกิดขึ้นเพื่อให้การฉายรังสีในอาหารเป็นที่ยอมรับและมีการใช้ประโยชน์แพร่หลายมากขึ้น และจากการที่ทุกวันนี้คนไทยตื่นตัวเรื่องการดูแลสุขภาพ ส่งผลให้มี "อาหารฟังก์ชัน" และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพ เกิดขึ้นมากมาย สทน. จึงมุ่งหวังนำเทคโนโลยีการฉายรังสี มาร่วมวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหารฟังก์ชัน ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ เพื่อช่วยรับรองถึงประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์พร้อมสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการสามารถพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ด้านสุขภาพออกมาจำหน่าย ให้คนไทยได้มีสุขภาพที่ดีต่อไป
รศ.ดร.ธวัชชัย กล่าวต่อว่า สำหรับการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการดำเนินงานต่อยอดในพื้นที่ "ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ" ต่อเนื่องจากปี 2566 ที่ผ่านมา โดยในปี 2567 นี้ มีผลิตภัณฑ์อาหารพื้นถิ่น ในจังหวัดเป้าหมาย คือ มรภ.อุดรธานี ได้แก่ หมกยวก แหนมเนือง แหนมกบ ขนมปังญวณ มรภ.บุรีรัมย์ ได้แก่ ยำกุ้งจ่อม ดักแด้ทรงเครื่อง แกงเผือกปลาย่าง ขนมตดหมา มรภ.สุรินทร์ ได้แก่ หมาน้อย แกงกล้วย ปลาปิ้ง ข้าวต้มใบมะพร้าว และ มรภ.ศรีสะเกษ ได้แก่ "เบ๊าะกะต๊าด" หรือส้มตำกระดาษ แกงอ่อมปู แกงเปรอะทุเรียนภูเขาไฟ ไก่ย่างไม้มะดัน เป็นต้น โดยทุกหน่วยงานจะทำงานร่วมกันทั้งในเรื่องการจัดฝึกอบรมให้ความรู้ การสร้างการยอมรับเรื่องประโยชน์ของการฉายรังสีผลิตภัณฑ์ และอำนวยความสะดวกให้มีศูนย์ประสานงาน ในการส่งผลิตภัณฑ์เพื่อมาฉายรังสี รวมทั้งมีการใช้พื้นที่และทรัพยากรต่าง ๆ ร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การวิจัยและพัฒนาตัวสินค้า จนสามารถขยายไปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่จะนำไปจำหน่ายในประเทศและส่งออกไปต่างประเทศ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.