ก็ผมมีสิทธิ์
เป็นอีกเรื่องหนึ่งครับที่น่าอ่านและเป็นแนวปฏิบัติต่อไป ขอให้พิจารณามุมมองและเหตุผลของกรรมการวินิจฉัยฯ ที่ให้ไว้ชัดเจนครับ
นายละเอียด เป็นครูอยู่ในโรงเรียนบกขี้ยาง มีหนังสือถึงโรงเรียนขอข้อมูลข่าวสารสำเนาสมุดฝากบัญชีเงินอุดหนุนงบประมาณและสำเนาสมุดฝากบัญชีเงินนอกงบ ที่มีการรับ – เบิกถอน ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒ แต่โรงเรียนบกขี้ยางมีหนังสือแจ้งปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารด้วยเหตุผลว่า การที่อ้างว่าเป็นกรรมการที่เป็นผู้แทนครูในคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน แล้วจะขอตรวจสอบสำเนาเอกสารนั้น จะต้องเสนอความเห็นเข้าในระเบียบวาระการประชุม และต้องได้รับความเห็นชอบก่อน ในระเบียบที่เกี่ยวข้องก็ไม่ได้กำหนดให้กล่าวอ้างอำนาจของคณะกรรมการฯ ขอตรวจสอบเอกสารได้ จะทำให้คนที่ตั้งใจทำงานเสียกำลังใจในการปฏิบัติงาน นายละเอียดจึงมีหนังสืออุทธรณ์ ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ในการประชุมของคณะกรรมการวินิจฉัย ฯ โรงเรียนบกขี้ยางมีหนังสือส่งข้อมูลข่าวสารไปประกอบการพิจารณาและชี้แจงว่า การที่นายกำกับขอข้อมูลข่าวสารของโรงเรียนเกี่ยวกับสำเนาสมุดฝากบัญชี จำนวน ๒ รายการ เพื่อใช้ในการตรวจสอบติดตามและประเมินผลการบริหารจัดการด้านงบประมาณของโรงเรียน เป็นการกระทำโดยมิชอบไม่ผ่านกระบวนการขั้นตอน ซึ่งโรงเรียนมีกลุ่มตรวจสอบภายใน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต ๑ ออกตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณทุกปี และโรงเรียน จะรายงานการใช้จ่ายงบประมาณต่อคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีการประชุมทุกครั้ง การข้ามขั้นตอนเช่นนี้จะทำให้กรรมการท่านอื่นทักท้วงในภายหลังได้ และไม่เป็นไปตามมาตรา ๑๕ (๕) แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ อีกประเด็นก็คือนายละเอียดเคยได้รับการปฏิเสธการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารบางเรื่องมาแล้ว อาจทำให้ไม่พอใจก็ได้
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารพิจารณาเห็นว่า การขอข้อมูลข่าวสารดังกล่าวนอกจากนายละเอียดจะเป็นบุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย สามารถใช้สิทธิรับรู้ข้อมูลข่าวสารตามที่พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ บัญญัติรับรองไว้ เพื่อการรับรู้ข้อมูลข่าวสารการปฏิบัติราชการตามปกติของหน่วยงานของรัฐแล้ว นายละเอียดยังมีสถานภาพเป็นกรรมการในคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง มีหน้าที่กำกับ แนะนำ และมีส่วนร่วมในการบริหารงานด้านวิชาการ ด้านงบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการบริหารทั่วไปของโรงเรียนอีกด้วย จึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในข้อมูลข่าวสาร สมควรได้รับทราบข้อมูลข่าวสารเพื่อใช้ประโยชน์ในการตรวจสอบการดำเนินงานของหน่วยงานของรัฐ แล้วข้อมูลที่ขอก็เป็นข้อมูลข่าวสารการปฏิบัติราชการปกติของหน่วยงานของรัฐ ไม่มีข้อความที่เข้าลักษณะ อย่างหนึ่งอย่างใดที่จะปฏิเสธได้ ตามมาตรา ๑๕ การเปิดเผยจะแสดงให้เห็นความโปร่งใสและการตรวจสอบได้ ของหน่วยงานของรัฐ ดังนั้น เมื่อพิจารณาถึงการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของหน่วยงานของรัฐ ประโยชน์สาธารณะและประโยชน์ของเอกชนประกอบกันแล้ว จึงวินิจฉัยให้โรงเรียนบกขี้ยางเปิดเผยข้อมูลข่าวสารตามคำขอ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้องให้นายละเอียด
มีข้อสงสัยการปฏิบัติหรือจะใช้สิทธิตามกฎหมายนี้หารือไปได้ครับที่ ๐ ๒๒๘๓ ๔๖๗๘ www.oic.go.th
ข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
รูปภาพ : https://undraw.co/illustrations
เผยแพร่ข่าว : นายธัชนนท์ บุญหล้า
ส่วนสื่อสารองค์กร สำนักบริหารกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3728 - 3732 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.