ผิดครับวันเดือนปีเกิดผม
ข้าราชการที่มัวแต่นั่งทำงาน ไม่ตรวจสอบประวัติส่วนตัวของตัวเอง วันดีคืนดีอาจเกษียณก่อนกำหนดก็ได้นะครับ มาดูกันว่า ถ้าวันเดือนปีเกิดของเราผิด จะต้องทำยังไง
นายงุนงงเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งได้แจ้งกับสำนักงานเขตพื้นที่ต้นสังกัดว่า มีข้อผิดพลาดในการลงเดือนเกิดในทะเบียนประวัติข้าราชการ (ก.พ. ๗) ของตัวเขาเอง โดยนายงุนงงเป็นผู้เขียนลงวันเดือนปีเกิดเป็น ๑ พฤษภาคม ๒๕๐๔ และรู้ว่าเขียนผิดแต่ไม่ได้แก้ไข แต่เขามีหลักฐานว่าเขาเกิด ๑ พฤศจิกายน ๒๕๐๔ ซึ่งจะทำให้เขาเกษียณอายุราชการเลื่อนออกไปอีก ๑ ปี พร้อมแสดงหลักฐาน ยืนยันเช่น สำเนาทะเบียนบ้าน แบบรับรองทะเบียนราษฎร (ท.ร.๑๔/๑) หลักฐานการศึกษาระดับ ม.ศ. ๓ หนังสือรับรองของมหาวิทยาลัย สำนักงานเขตพื้นที่ต้นสังกัดได้นำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า เนื่องจากนายงุนงงไม่ มีสูติบัตรมาแสดง จึงต้องพิจารณาจากหลักฐานการศึกษาสำคัญตามลำดับและสำเนาทะเบียนบ้านฉบับที่เก่าที่สุด ปรากฏว่าเอกสารการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ และปีที่ ๗ มีร่องรอยแก้ไขจากที่ ระบุไว้เดิมคือ ๑ พฤษภาคม ๒๕๐๔ แก้ไขเดือนเป็น “พฤศจิกายน” โดยผู้ลงลายมือแก้ไขระบุเหตุผลว่า แก้ไขตามแบบ ท.ร. ๑๔/๑ ซึ่งแก้ไขเดือนทางสุริยคติ ไม่ได้แก้ไขทางจันทรคติ เมื่อตรวจสอบปฏิทิน ๑๕๐ ปี พบว่าตรงกับวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๐๔ จึงมีมติให้ยึดถือวันที่ ๑ พฤษภาคม ๒๕๐๔ ตามเดิม เป็นวันเดือนปีเกิดของนายงุนงง นายงุนงง จึงอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร ตามมาตรา ๒๕ แห่งพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐
คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารวินิจฉัยสรุปว่า การวินิจฉัยว่าผู้อุทธรณ์เกิดเมื่อใดต้องยึดถือหลักฐานที่เชื่อถือได้ของทางราชการเป็นหลัก โดยหลักฐานสำคัญลำดับแรกคือ สูติบัตรหรือทะเบียนคนเกิดเมื่อไม่มีก็ต้องพิจารณาเอกสารชั้นรองได้แก่ สำเนาทะเบียนบ้าน หลักฐานการศึกษา หลักฐานทางทหาร และหลักฐานอื่นของทางราชการ เมื่อเอกสารชั้นรองฉบับที่เก่าที่สุดคือหลักฐานการศึกษาชั้น ป. ๔ มีการแก้ไข หลักฐานทางการทหาร (สด. ๑) ก็มีการแก้ไข หลักฐานทางทะเบียนบ้านฉบับปี ๒๕๒๖ ก็ไม่สามารถยืนยันว่า เป็นบุคคลเดียวกัน และเป็นหลักฐานที่นำไปใช้ขอแก้ไขเอกสารอื่นๆ และไม่มีหลักฐานทางราชการอื่นมาประกอบให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ จึงไม่อาจเชื่อว่าผู้อุทธรณ์เกิดเดือน พฤศจิกายน ตามที่ขอแก้ไขจึงวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์
เรื่องนี้มีการพิจารณาเอกสารหลักฐานของทางราชการอย่างละเอียด ครับ เพราะการแก้ไขข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลเป็นเรื่องที่ สำคัญ มีผลต่อระยะเวลาเกษียณอายุราชการครับ มีข้อสงสัยการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ หารือไปที่ สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ๐ ๒๒๘๓ ๔๖๗๗ www.oic.go.th
ข้อมูล : สำนักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
เผยแพร่ข่าว : นายธัชนนท์ บุญหล้า
ส่วนสื่อสารองค์กร สำนักบริหารกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3728 - 3732 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.