เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2563 : ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ และคณะผู้บริหาร ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมมหาวิทยาลัยนเรศวร และปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “บทบาทสถาบันอุดมศึกษาในภูมิภาคเพื่อสร้างขีดความ สามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจและลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม” โดยมี นายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก และ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.กาญจนา เงารังสี อธิการบดีมหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมให้การต้อนรับ
รมว.อว. กล่าวว่า อว. เดินหน้ายกเลิกหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณากำหนดตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ. 2563 โดยคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา (ก.พ.อ.) ที่ประชุมไปเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2563 ได้พิจารณาเห็นว่าหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณากำหนดตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ. 2563 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ก่อให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติกับการเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการ ซึ่งในการประชุม ก.พ.อ. ที่ผ่านมา ได้กำหนดระยะเวลาผ่อนผันในช่วงเปลี่ยนผ่านเกณฑ์เป็นระยะเวลา 2 ปี คือ ตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2563 ถึงวันที่ 23 มิถุนายน 2565 ให้ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณากำหนดตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ. 2560 คู่ขนานกับหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณากำหนดตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ. 2563 ได้ โดยมอบหมายให้ ศาสตราจารย์ศันสนีย์ ไชยโรจน์ ประธานคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับตำแหน่งทางวิชาการ และ ศาสตราจารย์สมคิด เลิศไพฑูรย์ ที่ปรึกษา รมว.อว. เป็นผู้รับผิดชอบยกร่างหลักเกณฑ์และวิธีการกำหนดตำแหน่งทางวิชาการขึ้นใหม่ โดยยึดหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณากำหนดตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ. 2560 เป็นหลัก แล้วนำหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณากำหนดตำแหน่งทางวิชาการ พ.ศ. 2563 ในส่วนที่ดีและเหมาะสมมาปรับใช้ต่อไป ทั้งนี้ ก.พ.อ. ได้กำหนดระยะเวลาดำเนินการไว้ 3 เดือน
ดร.เอนก กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการเยียวยาข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา กรณีข้าราชการครู บุคลากรทางการศึกษาได้ปรับอัตราเงินเดือนเพิ่ม ทั้งนี้ ก.พ.อ. ได้รับทราบความคืบหน้าการกำหนดมาตรการเยียวยาข้าราชการฯ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม กรณีที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ปรับอัตราเงินเดือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2554 คณะอนุกรรมการเกี่ยวกับการพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลในสถาบันอุดมศึกษาได้เสนอให้เยียวยาข้าราชการฯ ที่ดำรงตำแหน่ง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2554 ให้ได้รับเงินเยียวยาส่วนเพิ่ม ร้อยละ 8 ของอัตราเงินเดือน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2554 เป็นต้นไป จนถึงวันที่ข้าราชการผู้นั้นเกษียณอายุราชการ หรือพ้นสภาพเป็นข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ทั้งนี้ จากการประมาณการพบว่ามีข้าราชการฯ ที่จะได้รับการเยียวยา 36,300 คน ทั้งบุคลากรสายวิชาการและสายสนับสนุน ใช้งบประมาณ 8,029 ล้านบาท โดยให้เฉลี่ยจ่ายคืนภายใน 5 ปี อย่างไรก็ตามเพื่อความรอบคอบ อว. จะนำข้อกฎหมายหารือสำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา ใน 2 ประเด็น โดยประเด็นแรก การเยียวยาจะกระทำย้อนหลังไปถึงวันที่เกิดเหตุของความไม่เป็นธรรม คือวันที่ 31มีนาคม 2554 ได้หรือไม่ และประเด็นที่สอง เงินเยียวยาจะต้องกำหนดให้เป็นเงินเดือนหรือเงินประจำตำแหน่งตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ อย่างไร เมื่อได้คำตอบแล้ว ก.พ.อ.จะพิจารณากำหนดมาตรการการเยียวยาให้ถูกต้องและเหมาะสมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป.
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.