4 ธันวาคม 2563 : ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และศาสตราจารย์ นายแพทย์สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงฯ พร้อมคณะผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ เข้าเยี่ยมชมผลงานนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยมหิดล รวมทั้งมอบนโยบายให้กับคณะผู้บริหารและผู้บริหารส่วนงานมหาวิทยาลัยมหิดล ณ ศูนย์ประชุมมหิดลสิทธาคาร มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา จังหวัดนครปฐม
ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวต้อนรับ รมว.อว. และคณะ และนำเสนอภาพรวมและผลการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย ทั้งด้านการวิจัยและนวัตกรรมในสาขาต่างๆ ด้านการจัดการเรียนการสอนให้นักศึกษาเป็น global citizen ด้านการบริการสุขภาพ และด้านการบริหารจัดการ และแผนการดำเนินงานในอนาคตในช่วงระยะเวลา 2 ปี โดยมีความมุ่งหวังในการเป็น top 300 world class university ภายในสองปี โดยมุ่งผลักดันด้านงานวิจัย เน้น Frontier Research สร้างศาสตร์แขนงใหม่ ด้านการศึกษา ขยายผล Flexible Education ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย พัฒนาอาจารย์ตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพอาจารย์ ด้านการบริการวิชาการ ผลักดัน Policy Advocacy ยกระดับการสร้างมาตรฐานโดยการเป็น Trendsetter และด้านการบริหารจัดการ มุ่งสู่ TQA Digital Convergence University บริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาล ผลิตบุคลากรที่เป็น Global Talent SDGs จากนั้นนำเสนอความต้องการสนับสนุนจากกระทรวง ในเรื่องการประกาศผลการจัดสรรทุนวิจัยจากแหล่งทุนของกระทรวง อว. การจัดสรรงบประมาณเพื่อสร้างนวัตกรรมและความพร้อมต่อศาสตร์ทางการแพทย์ที่จำเป็นต่อประเทศ การจัดสรรงบประมาณโครงการพลิกโฉมการอุดมศึกษาของประเทศไทย และการปรับปรุงแก้ไขเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับปริญญาตรี พ.ศ. 2558
รมว.อว. กล่าวในการมอบนโยบายว่า มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นมหาวิทยาลัยที่มีความเป็นเลิศและประสบความสำเร็จในหลายๆ ด้าน เรื่องแรกที่อยากให้มหาวิทยาลัยมหิดลทำคือ มหาวิทยาลัยน่าจะต้องถอดบทเรียนที่เป็นความสำเร็จแบบมหิดล เป็นตัวอย่าง เป็นต้นแบบของการบริหารมหาวิทยาลัย อะไรที่ทำให้มหิดลประสบความสำเร็จ อยากให้มหาวิทยาลัยสรุปทฤษฎีวิธีบริหารมหาวิทยาลัยแบบมหิดล ความเป็นเลิศแบบมหิดลสร้างขึ้นมาอย่างไร จากความเป็นเลิศทางการแพทย์กลายเป็นความเป็นเลิศอย่างรอบด้านได้อย่างไร มหิดลคืออะไร ศาสตร์ที่ท่านทำขึ้นมาหลายอย่างท่านไม่เคยมีผู้ทรงคุณวุฒิทางนี้ ท่านทำได้อย่างไร ควรจะต้องสรุปบทเรียนของสภามหาวิทยาลัย บทเรียนของอธิการบดี บทเรียนของคณบดี ที่รักษาความเป็นเลิศได้ต่อเนื่องยาวนาน สร้างศาสตร์และศิลป์ต่างๆได้ดีทำได้อย่างไร เพื่อช่วยยกระดับมหาวิทยาลัยในไทยได้
อีกเรื่องหนึ่งคือเรื่องทางการเกษตร เกษตรในฐานะวิชากำลังมี disruptive change ซึ่งไม่สามารถให้ผู้ที่เรียนเกษตรอย่างเดียวทำได้ ต้องใช้ศาสตร์ต่างๆที่ก้าวหน้ามากลงไปทำด้านต่างๆของการเกษตร มหาวิทยาลัยมหิดลน่าทำเรื่องเกษตรให้จริงจัง ให้เป็นเกษตรที่ปราดเปรื่อง Smart Farming จะช่วยแก้ปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้ำ การบริหารจัดการที่ดินทางการเกษตร ซึ่งเหมาะกับมหาวิทยาลัยมหิดลที่มีวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ด้านโมเลกุลที่ก้าวหน้ามาก เรื่องนี้จะสามารถตอบปัญหาต่างๆของประเทศได้
เรื่องการแพทย์และสาธารณสุขก็เป็นอีกเรื่องที่มี disruptive change มาก อยากจะเห็นการแพทย์สาธารณสุขของเราเจริญก้าวหน้า จากสถานการณ์โควิดนั้นเราพึ่งพาตนเองทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้น้อย ทำอย่างไรให้ประเทศผลิตยาได้เองมากขึ้น มีอุตสาหกรรมสาธารณสุขที่ดี พึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น หากทำได้ก็จะเกิดประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองได้มาก
สุดท้ายเรื่องการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทย เราคิดในกรอบของประเทศเป็นหลัก ไม่ได้คิดในแง่การสร้างพันธมิตรระหว่างประเทศที่จะมาช่วยในเรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเท่าที่ควร เราน่าจะต้องทำพัทธมิตรทางยุทศาสตร์ต่างประเทศ คิดแบบ overall plan เราจะไม่ขับเคลื่อนด้วยพลังของเราเท่านั้น แต่จะเกาะเกี่ยวพลังของคนอื่นด้วย และควรจะเป็นหลายพันธมิตร ทำมหาวิทยาลัยร่วมกันในสาขาที่อยู่ในระดับโลก ผลิตคน ทำวิจัย ควบคู่กับเขา ยกระดับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและศิลปะวิทยาการของเราตามไป มหาวิทยาลัยควรจะรับอาจารย์ นักวิจัย หลักสูตรของต่างประเทศที่เราเห็นว่าจะเป็นประโยชน์กับเราให้มากขึ้น อยากให้มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยในไทยมีจิตใจและความถ่อมตัวที่จะไปรับรู้ความก้าวหน้าของโลก ของประเทศอื่นๆ แต่ในขณะเดียวกันก็จะต้องมีตัวตนของตัวเองที่จะต้องเชื่อมั่นในชาติพันธุ์ ภาษา วัฒนธรรมของเราเอง และเชื่อว่าเราก็จะไปสู่ความเป็นเลิศได้ อยากให้มหาวิทยาลัยในประเทศไทยผลิตปราชญ์ บัณฑิตที่เป็นเลิศ รอบรู้ ปราดเปรื่องด้วย มิใช่แต่วิจัยเฉพาะทาง แต่ต้องมีความรอบรู้ รอบด้าน รู้ว่าจะนำวิชาไปทำให้เกิดประโยชน์ได้อย่างไร รมว.อว. กล่าวในตอนท้าย
ถ่ายภาพ อินทิรา บัวลอย
เขียนข่าว วีนัส แก้วประเสริฐ
เผยแพร่ข่าว : ปราณี ชื่นอารมณ์ (กลุ่มภารกิจด้านอุดมศึกษา)
ส่วนสื่อสารองค์กร กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2039 5609 Facebook : @opsMHESI/
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.