อว.จับมือ 11 มหาวิทยาลัยราชภัฎสร้าง “วิศวกรสังคม” ตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มอบทุนวิจัยแห่งละ 750,000 แสน ให้ไปสร้างนวัตกรรมเพื่อสังคม ชุมชน
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมโดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ“วิศวกรสังคมสร้างชุมชนเข้มแข็งด้วย วิจัยและนวัตกรรม” ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏ 11 แห่ง เพื่อแสดงเจตนารมณ์ในความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนโครงการบ่มเพาะ และเพิ่มศักยภาพการพัฒนาเชิงพื้นที่ด้วยกระบวนการวิศวกรสังคม โดยมี พล.อ. ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี พร้อมด้วย ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เป็นประธานในพิธีลงนามฯ
ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า บัณฑิตกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศล้วนผลิตโดยมหาวิทยาลัยราชภัฎ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระบรมราโชบายในด้านการศึกษา โดยเฉพาะในส่วนมหาวิทยาลัยราชภัฎ คือให้มุ่งเน้นในการพัฒนาคนและพื้นที่เป็นหลัก ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฎก็ทำหน้าที่ของตนเองได้อย่างดี เช่นในสถานการณ์โควิด -19 มหาวิทยาลัยราชภัฎยังร่วมกับ อว. ทำโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ เป็นกำลังของจังหวัด และวันนี้ยังมีเรื่องที่ยังความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ได้พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์เป็นจำนวน 18.9 ล้านบาทแก่ อว. เพื่อจัดทำโรงพยาบาลสนาม ซึ่งมหาวิทยาลัยราชภัฎก็จะต้องเป็นกำลังหลักในการจัดทำอยู่แล้ว
รมว.อว. กล่าวต่อว่า การลงนามความร่วมมือ “วิศวกรสังคมสร้างชุมชนเข้มแข็งด้วยวิจัยและนวัตกรรม” ครั้งนี้ ถือเป็นการสนับสนุนทุนวิจัยให้แก่มหาวิทยาลัยราชภัฎทั้ง 11 แห่ง โดย วช. จะมอบให้แห่งละ 750,000 บาท และขอยืนยันว่า อว. จะดูแลมหาวิทยาลัยราชภัฎให้เป็นพิเศษ เพราะเราตระหนักว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงให้ความสำคัญกับมหาวิทยาลัยราชภัฎ
พล.อ.ดาว์พงษ์ กล่าวว่า วิศวกรสังคม เป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญที่จะช่วยสร้างชุมชนเข้มแข็งและสร้างเสริมสมรรถนะผู้เรียนให้สมบูรณ์ด้วยคุณลักษณะ 4 ประการ ได้แก่ การมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง การมีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง มีคุณธรรม มีงานทำ มีอาชีพ และเป็นพลเมืองดี ซึ่งวิศวกรสังคมที่ได้รับการพัฒนาทักษะ จะสามารถเป็นสื่อกลางในการประสานประโยชน์ของทุกภาคส่วนเพื่อให้ชุมชนท้องถิ่นเกิดการพัฒนา ให้นักศึกษามีความสามารถและทักษะเพื่อการดำรงชีวิตและการทำงานในอนาคต สามารถแก้ปัญหาและพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตนได้และเกิดการสร้างนวัตกรรมตามมา มหาวิทยาลัยราชภัฎ ทั้ง 11 แห่ง ที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก วช. คงจะนำไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส เรากำลังเดินตามพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ว่าการศึกษาต้องสร้างคนไทยที่มีทัศนคติที่ดี สร้างพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง เข้มแข็ง เป็นพลเมืองดี มีวินัย จะเกิดเป็นรูปธรรมขึ้นได้ภายใต้โครงการนี้
ด้าน ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผอ.สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า วช.มีความพร้อมที่จะร่วมสร้าง สุดยอดผู้นำวิศวกรสังคม เพื่อการพัฒนาท้องถิ่น โดยการสนับสนุนนักศึกษา และบุคลากรที่ผ่านกระบวนการวิศวกรสังคม ให้นำองค์ความรู้ที่ได้จากการวิจัยและนวัตกรรมต่างๆ ไปประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุด นำความรู้ไปใช้ในการยกระดับนวัตกรรมสู่ชุมชนอย่างยั่งยืน เพื่อให้วิศวกรสังคมเป็นกำลังหลักในการทำหน้าที่ขับเคลื่อนชุมชนด้วย กระบวนการพัฒนานวัตกรรมให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศได้ในอนาคต อีกทั้งยังสอดคล้องกับความเป็นไทยในบริบทโลก บนแนวคิดการสร้างปัญญา เพื่อพัฒนาชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืนสืบไป โดยหลังจากนี้ อว. ยังเตรียมขยายผลรูปแบบการพัฒนานี้ไปยังมหาวิทยาลัยราชภัฏ และสถาบันการศึกษาอื่นๆ ต่อไป
สำหรับมหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.) 11 แห่ง ได้แก่ มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา มรภ.นครปฐม มรภ.ราชนครินทร์ มรภ.เพชรบุรี มรภ.นครสวรรค์ มรภ.เพชรบูรณ์ มรภ.ชัยภูมิ มรภ.อุดรธานี มรภ.สุราษฎร์ธานี มรภ.ภูเก็ต และ มรภ.ยะลา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.