(16 สิงหาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) บูรณาการความร่วมมือส่งเสริมให้นิสิต นักศึกษา บุคลากรในสถาบันอุดมศึกษามีความรู้การวางแผนด้านการออม การเงิน การลงทุนที่ดี เพื่อคุณภาพชีวิตและอนาคตที่มั่นคง โดยมี ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) ร่วมกับ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ พร้อมด้วย ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ กล่าวรายงานแนวทางการดำเนินงานของ อว. และมี ผศ.ดร.ดวงฤทธิ์ เบ็ญจาธิกุล ชัยรุ่งเรือง เลขานุการรัฐมนตรีว่าการ และโฆษกกระทรวงการอุดมศึกษาฯ, ดร.พัชรินรุจา จันทโรนานนท์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษาฯม ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษาฯ และผู้แทนจากสถาบันอุดมศึกษาในกำกับกระทรวง อว. เข้าร่วมงาน ห้องประชุมชั้น 4 อาคารพระจอมเกล้า สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และผ่านระบบประชุมทางไกล (Video Conference)
ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ปลัด อว. กล่าวรายงานแนวทางการดำเนินงานของ อว. ว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ เกิดขึ้นจากการเห็นพร้องร่วมกันถึงประโยชน์และความสำคัญของการส่งเสริมการออมและการวางแผนทางการเงินที่ดี อว. ในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านการศึกษาในระดับอุดมศึกษา เล็งเห็นถึงความสำคัญของประโยชน์ที่นิสิต นักศึกษา บุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาจะได้รับจากความร่วมมือระหว่างกัน แนวทางการขับเคลื่อนงานของ อว. มีภารกิจ 4 เรื่อง ได้แก่ (1) สนับสนุนให้นิสิต นักศึกษา บุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาให้ความสำคัญเกี่ยวกับการออม ส่งเสริมให้เกิดองค์ความรู้ด้านการวางแผนทางการเงินและการลงทุน สนับสนุนให้สถาบันอุดมศึกษาบรรจุเนื้อหาการวางแผนทางการเงินและการลงทุนในวิชาศึกษาทั่วไป โดยจะผลักดันให้เกิดผลในทางปฏิบัติในภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2564 (2) จัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์และเชิญชวนให้นิสิต นักศึกษา บุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาที่ยังไม่มีสิทธิและสวัสดิการเรื่อง บำเหน็จบำนาญ เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการออมและการวางแผนทางการเงินเพื่อประโยชน์ในอนาคต อาทิ การจัดกิจกรรมสัปดาห์แห่งการออม ซึ่งกำหนดให้มีผู้เข้าร่วมโครงการอย่างน้อย 10% (3) สนับสนุนการประชาสัมพันธ์และการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารของ กอช. และ ก.ล.ต. ผ่านช่องทางประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ ของกระทรวง อว. (4) สนับสนุนให้ทั้ง 2 หน่วยงานไดเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดโครงการ/กิจกรรมของกระทรวง อว. และสถาบันอุดมศึกษา อาทิ การเป็นวิทยากร, การออกนิทรรศการประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
ด้าน นายอาคม รมว.การคลัง กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นการยกระดับการทำงานร่วมกันของทั้ง 3 หน่วยงาน ในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านการวางแผนทางการเงินให้แก่นิสิต นักศึกษา บุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา สอดรับกับแผนยุทธศาสตร์ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) ในยุทธศาสตร์ที่ 4 ด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมนั้น โดยเตรียมความพร้อมทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม สุขภาพและสภาพแวดล้อมให้เป็นประชากรที่มีคุณภาพ สามารถพึ่งตนเอง ลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ตระหนักถึงการออมเพื่ออนาคตและสร้างความมั่นคงของชีวิตอย่างมีคุณภาพ
ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก รมว.อว. กล่าวว่า อว. เป็นกระทรวงที่มีกลุ่มคนจำนวนมาก มีนิสิต นักศึกษาและบุคลากรในกำกับอีกประมาณ 2 ล้านคน เราจึงเป็นกองหนุนที่มีปริมาณ สิ่งที่กระทรวงการคลัง, กองทุนการออมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ทำ เป็นสิ่งที่ กระทรวง อว. พร้อมที่จะสนับสนุนด้วยปริมาณอย่างเต็มที่ ขณะเดียวกัน อว. ก็เป็นกระทรวงที่พยายามเน้นคุณภาพ การลงนาม MOU ในครั้งนี้ถ้า อว. พิจารณาไตร่ตรองเห็นว่าสมควรแล้ว ก็จะต้องทำงานอย่างเต็มที่ จึงนำมาสู่การนำอธิการบดีมหาวิทยาลัยมารับทราบถึงแนวนโยบายของกระทรวง อว. ที่จะสนับสนุนให้นิสิต นักศึกษา บุคลากรเป็นผู้ออมที่ดี มีความเข้าใจในเรื่อง financial literacy ในประเทศที่พัฒนาแล้วเด็กทุกคนเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัย จะต้องเรียนวิชาส่วนหนึ่งที่เรียกว่า การลงทุน ซึ่งก็สอนเรื่องการออมเงินชนิดต่าง ๆ รวมทั้งเรื่องตลาดทุน ตลาดหุ้นหรือกองทุนรวมที่เหมาะสมกับผู้ออม สิ่งที่กองทุนการออมแห่งชาติทำ “ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดีมากและได้ติดตามการทำงานในเรื่องนี้มาตลอด” นอกจากนั้นกองทุนการออมแห่งชาติมีเงินสมทบให้ด้วย อายุ 15-30 ปี สมทบให้ 50% ของเงินออมสูงสุด 600 บาท/ปี เป็นต้น โดยนิสิต นักศึกษาอยู่ในช่วงวัยนี้ก็จะได้รับเงินสมทบ 300 บาท/ปี ถือว่าได้รับเงินก้นถุง ที่สำคัญที่สุดคือต้องทำให้การออมเป็นวัฒนธรรม ซึ่งยังคงต้องสนับสนุนและส่งเสริม เพื่อให้เป็นวิชาชีวิตต่อไป
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.