อว. จัดสัมมนา Talk Series#1 เรื่อง “ความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ : ระดับไหนที่ต้องไปให้ถึง” เพื่อส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรกระทรวง อว. รวมทั้ง นิสิต นักศึกษา และภาคประชาชนให้มีความรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโ ...

         วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 ศ. (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (รมว.อว.) เป็นประธานการสัมมนา Talk Series#1 เรื่อง “ความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์ : ระดับไหนที่ต้องไปให้ถึง” เพื่อส่งเสริมและพัฒนาบุคลากรกระทรวง อว. รวมทั้ง นิสิต นักศึกษา และภาคประชาชนให้มีความรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน มีทักษะและศักยภาพที่ตอบสนองต่อการดำเนินงานในศตวรรษที่ 21 พร้อมด้วย ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวง อว. เข้าร่วมงาน ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารพระจอมเกล้า สป.อว.

       ในปัจจุบันสถานการณ์ด้านความมั่นคงปลอดภัยบนโลกไซเบอร์และปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ของประเทศที่ปรากฏอยู่ในปัจจุบัน อันเป็นภัยคุกคามซึ่งอยู่ใกล้ตัวเรา หลายหน่วยงานของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ไปจนถึงภาคประชาชนต่างได้รับผลกระทบ ปัจจุบันสังคมได้เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว จึงจำเป็นยิ่งที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ และเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์เหล่านั้น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จึงได้จัดการสัมมนาในวันนี้ขึ้น เพื่อเป็นการถ่ายทอดความรู้ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายไซเบอร์ที่ทุกคนควรรู้ บทบาทของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการช่วยเหลือหน่วยงานหรือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงแนวทางการป้องกันและแก้ไข หากเกิดปัญหาขึ้นกับตัวท่าน เพื่อให้ทุกคนสามารถรับมือและมีวิธีการในการจัดการกับปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ในรูปแบบต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับตัวท่านได้อย่างน้อยในเบื้องต้น ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสัมมนาในวันนี้ จะทำให้คณาจารย์และบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษา นิสิต/นักศึกษา บุคลากรในสังกัดกระทรวง อว. รวมไปถึงหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน จะได้รับประโยชน์จากการเสวนาของวิทยากรและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในหน่วยงานหรือการดำเนินชีวิตประจำวันของท่านได้ เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของภัยคุกคามทางไซเบอร์

       กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ดำเนินโครงการพลิกโฉมระบบการอุดมศึกษาของประเทศไทย (Reinventing University System) เป้าหมายหลักคือต้องการให้มหาวิทยาลัยปฏิรูประบบการบริหาร ปรับเปลี่ยนหลักสูตรและการเรียนการสอนให้ทันสมัย เสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ผลิตกำลังคนคุณภาพสูงทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้เป็นผู้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีปัญญา และคุณธรรม มีทักษะการคันคว้าวิจัยและสร้างนวัตกรรม มีความสามารถในการเป็นผู้ประกอบการ (Entrepreneur) ไม่ว่าจะเป็น Innovation-driven Entrepreneur หรือ Social Entrepreneur อีกทั้งเพิ่มโอกาส "การเรียนรู้ตลอดชีวิต" สำหรับรองรับการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ดังนั้น มหาวิทยาลัยจึงเป็นหัวรถจักรขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศและนำพาประเทศไปสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยเริ่มจากการปลดล็อกมหาวิทยาลัยให้สามารถแก้ปัญหาสำคัญ และสร้างพื้นฐานที่เข้มแข็งของประเทศและประชาชน จึงจะสามารถนำประเทศไทยไปสู่ความยั่งยืนและก้าวพ้นกับดักรายได้ปานกลาง (Middle Income Trap) เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว