จากกรณีที่วัสดุกัมมันตรังสี “ซีเซียม -137” สูญหายไปจากโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล บ.เนชั่นแนล เพาเวอร์ แพลนท์ 5 เอ จำกัด ในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี และต่อมาได้มีการตรวจพบวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียมฯ ในโรงงานหลอมเหล็กแห่งหนึ่ง ใน จ.ปราจีนบุรี จนทำให้ประชาชนกังวลว่าจะเกิดอันตรายจากการแพร่กระจายของสารกัมมันตรังสีดังกล่าวนั้น
วันนี้ (20 มี.ค.) ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสังกัดกระทรวง อว. เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยหลังการประชุมวอร์รูม ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว กระทรวง อว. ถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดและทันที ตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัด อว.ที่เกี่ยวข้องดูแลความปลอดภัยของประชาชน และดูแลไม่ให้มีการปนเปื้อนของซีเซียมในสิ่งแวดล้อม ทั้งดิน น้ำ อากาศ ดังนี้ 1. กำหนดให้ถือเป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยขั้นสูง และได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าที่เพื่อดูแลสถานการณ์ในส่วนที่ อว.เกี่ยวข้องในพื้นที่เกิดเหตุ โดยร่วมมือกับจังหวัดและหน่วยงานอื่นอย่างใกล้ชิด 2.กำหนดพื้นที่ปฏิบัติการเป็นวง วงที่ 1 โรงงานที่เกิดเหตุและที่ตรวจพบสารรังสี วงที่ 2 พื้นที่ใกล้เคียงกับโรงงงานที่ตรวจพบสารรังสี วงที่ 3 อำเภอและจังหวัดปราจีนบุรี วงที่ 4 พื้นที่อื่นๆ โดยให้แต่ละวงมีมาตรการที่ชัดเจนตามข้อมูลทางวิชาการ 3. ให้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ตรวจสอบการปนเปื้อนของกัมมันตรังสีซีเซียมฯ ในสิ่งแวดล้อม ทุกจุดและทุกวงดังกล่าว ทั้งดิน น้ำ อากาศ และให้รายงานผลการตรวจในทันที และ 4. ตรวจเช็คเพื่อยืนยันข้อมูลย้อนหลังของจุดตรวจทุกจุดภายในประเทศ และประสานงานกับเครือข่ายต่างประเทศเพื่อตรวจสอบจุดตรวจในต่างประเทศด้วย
รมว.อว.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้มหาวิทยาลัยที่มีโรงเรียนแพทย์เข้าไปช่วยติดตามและดูแลสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ ที่สำคัญ กระทรวง อว. ยังได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานเพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสีซีเซียม -137 ซึ่งพร้อมประสานข้อมูลและบูรณาการการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
“ตนได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานในสังกัด อว. ต้องช่วยกันเร่งแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าโดยทันที และต้องควบคุมไม่ให้สถานการณ์ขยายออกไป รวมถึงหาวิธีป้องกันเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก” ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าว
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.