เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) ที่มี ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ เป็นประธาน ได้เห็นชอบในหลักการให้มหาวิทยาลัยราชภัฎ (มรภ.) ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ มรภ. ศรีษะเกษ มรภ.ชัยภูมิ และ มรภ.ร้อยเอ็ด จัดตั้งส่วนราชการเพิ่มอีกแห่งละ 2 ส่วนราชการ ประกอบด้วย ส่วนราชการที่มีภารกิจในการจัดการศึกษาโดยตรง จำนวน 1 ส่วนราชการ คือ วิทยาลัยคุุรุศาสตร์และการพัฒนามนุษย์ และส่วนราชการที่มีภารกิจด้านการสนับสนุนการจัดการศึกษา จำนวน 1 ส่วนราชการ คือ สำนักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งจะเป็นส่วนราชการที่ช่วยขับเคลื่อนการจัดการศึกษาในรูปแบบใหม่ ที่จะเน้นการพัฒนากำลังคนเพื่อตอบโจทย์การพัฒนาท้องถิ่น ผ่านกลไกการเรียนรู้ตลอดชีวิต (lifelong learning). การผลิตกำลังคนทั้งในรูปแบบปริญญา (degree) และไม่รับปริญญา (non-degree) หลักสูตรที่ทำร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ การเรียนการสอนที่เอาโจทย์ของพื้นที่เป็นฐาน นอกจากนี้ กกอ. ยังเห็นว่าการจัดตั้งส่วนงานเพื่อการศึกษาในรูปแบบใหม่นี้ จะเป็นอีกบริบทของการพัฒนาอุดมศึกษาไทย หากติดตามและประเมินแล้วว่าประสบความสำเร็จ จะนำไปขยายผลในมหาวิทยาลัยอื่นๆ ต่อไป
“มรภ. ทั้ง 3 แห่ง เป็น มรภ. ที่จัดตั้งมาตั้งแต่ ปี พ.ศ .2547 ตามกฎหมายว่าด้วยมหาวิทยาลัยราชภัฏ แต่เป็นกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏที่มีการจัดตั้งและแบ่งส่วนราชการระดับคณะกลุ่มหลังสุด โดยเมื่อแรกเริ่ม มีเพียง 2 ส่วนราชการ ได้แก่ สำนักงานอธิการบดี และคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ตลอดเวลา 19 ปี ที่ผ่านมา มรภ. ทั้ง 3 แห่ง มีการเติบโตและขยายตัวมากขึ้น เป็นกำลังสำคัญของการพัฒนาจังหวัด พัฒนาพื้นที่ ปัจจุบัน (ปีการศึกษา 2565) มรภ. ศรีษะเกษ มีนักศึกษา จำนวน 7,600 คน มรภ. ร้อยเอ็ด มีนักศึกษา จำนวน 5,900 คน และ มรภ .ชัยภูมิ มีนักศึกษา จำนวน 4,600 คน การเพิ่มส่วนราชการ ให้แก่ มรภ. ทั้ง 3 แห่ง จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการพัฒนากำลังคน สร้างความเป็นเลิศ ให้กับพื้นที่ ตามภารกิจของมหาวิทยาลัย ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มที่ 3 หรือกลุ่มพัฒนาชุมชนท้องถิ่นหรือชุมชนอื่น โดยรูปแบบของส่วนราชการใหม่นั้นจะมีความยืดหยุ่น ใช้ประโยชน์จากกลไกใหม่ๆ ของกระทรวง อว. เช่น หลักสูตรแซนด์บอกส์ (sandbox) หลักสูตรตามเกณฑ์มาตรฐาน 2565 ที่เปิดโอกาสให้ออกแบบการศึกษาร่วมกับผู้ใช้หรือผู้ที่จะจ้างบัณฑิตและระบบคลังหน่วยกิตมาใช้เพื่อให้การพัฒนากำลังคนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าว
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.