กระทรวง อว. พร้อมจัด 2 งานใหญ่แห่งปี “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2566” ภายใต้แนวคิด “For Bright and Creative Generations” ควบกับงาน “เทคโนมาร์ท 2023” โชว์ศักยภาพผลงานด้านวิทยาศาสตร์ และผลิตภัณฑ์ของกระทรวง อว. และภาคีเครือข่ายทั้งในและต่างประเทศ ภายใต้ BCG Model
หนุนวิทยาศาสตร์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจเพื่อสังคมอย่างยั่งยืน พร้อมมอบรางวัล Prime Minister’s Science Award 2023 แก่ครูและเยาวชนที่สร้างผลงานด้านวิทยาศาสตร์
เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2566” ภายใต้แนวคิด “For Bright and Creative Generations” และงาน “เทคโนมาร์ท 2023” โดยมี ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ดร.บุญเกียรติ การะเวกพันธุ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการ อว. ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวงการ อว. นายสัมพันธ์ เย็นสำราญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ อว. ดร.ดนุช ตันเทอดทิตย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ และ ผศ.ดร.รวิน ระวิวงศ์ ผู้อำนวยการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) เข้าร่วม
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ กล่าวว่า “รัฐบาลพร้อมสนับสนุนการจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ประจำปี 2566 และงานเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย ประจำปี 2566 : TechnoMart 2023 เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้และสร้างแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแก่คนไทยทุกช่วงวัย ที่ผ่านมา รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ในการพัฒนาประเทศ โดยคาดหวังให้คนไทยมีทักษะความรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่มีผลกระทบโดยตรงต่อมวลมนุษยชาติทั้งปัจจุบันจนถึงอนาคต การส่งเสริมให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ในทุกมิติ ซึ่งต้องไม่มีข้อจำกัดใด ๆ สามารถเข้าถึงความรู้ที่ไม่จำกัดเพียงการเรียนรู้เฉพาะในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัยหรือในสถาบันต่าง ๆ เท่านั้น โลกในอนาคตเป็นโลกกว้างที่มีองค์ความรู้หลากหลายสามารถเรียนรู้ได้อย่างไร้พรมแดน วทน. ต้องเป็นความรู้พื้นฐานของคนไทย ต้องมีการผสมผสานการเรียนรู้ในห้องเรียน และนอกห้องเรียนที่ต่อเนื่องสำหรับทุกช่วงวัย กล่าวได้ว่ารัฐบาลมุ่งให้ “การศึกษาและการเรียนรู้เพื่อคนไทยทุกคน” เป็นหลักคิดหลักปฏิบัติที่ต้องเชื่อมโยงการดำเนินงานจากทุกภาคส่วนสู่คนทุกช่วงวัยไปจนตลอดชีวิต
รองนายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า พร้อมนี้ขอแสดงความยินดีและชื่นชมเยาวชนและครูผู้ได้รับรางวัล Prime Minister’s Science Award 2023 ในปีนี้ ทุกท่านที่ได้เป็นแบบอย่างที่สำคัญในฐานะที่ผู้ที่ประสบความสำเร็จด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งจะเป็นผู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับบุคคลอื่นต่อไป
ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เปิดเผยว่า กระทรวง อว. โดยองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ดำเนินการจัดงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ” ซึ่งเป็นกิจกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมุ่งหวังการพัฒนาสังคมไทยไปสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ และเห็นความสำคัญของวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ในบทบาทต่อการพัฒนาประเทศ และเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ในฐานะ “พระราชบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” เพื่อเทิดพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในฐานะ “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” และเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงศ์ ที่ทรงมีคุณูปการต่องานด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการศึกษาของประเทศไทย
สำหรับงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2566 จัดขึ้นโดยกระทรวง อว. โดยความร่วมมือจากภาครัฐ เอกชน สมาคม สภาสมาคม มูลนิธิ และพิพิธภัณฑ์ รวม 113 หน่วยงาน จาก 8 ประเทศ ได้แก่ ประเทศออสเตรเลีย สาธารณรัฐประชาชนจีน ราชอาณาจักรเดนมาร์ก สาธารณรัฐฝรั่งเศส ประเทศญี่ปุ่น ประเทศมาเลเซีย ราชอาณาจักรสวีเดน และไทย ภายใต้แนวคิด For Bright and Creative Generations เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ผสมผสานกับศิลปะ เพื่อการขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน สอดรับกับนโยบายของประเทศด้านโมเดลเศรษฐกิจ BCG
และอีกงานใหญ่ของ อว. “งานเทคโนโลยีและนวัตกรรมของไทย ประจำปี 2566 : TechnoMart 2023” จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “BCG พลิกโฉมประเทศไทย สู่เศรษฐกิจสร้างคุณค่า สังคมเดินหน้าอย่างยั่งยืน” เป็นการนำเอาผลงานวิจัยที่แสดงถึงศักยภาพของคนไทยมาจัดแสดงให้ประชาชนได้เห็นเพื่อให้มีการซื้อขายกัน รวมถึงเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการได้เจอกับนักวิจัย เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ใหม่ ๆ ซึ่งกันและกัน เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ BCG Model และหวังเป็นอย่างยิ่งให้ผลงานวิจัยทั้งหมดนี้ได้มีการพัฒนาต่อยอดออกมาสู่สังคมได้มากยิ่งขึ้นต่อไป
“ทั้ง 2 งานนี้ จึงเป็นเวทีสำคัญในการแสดงผลงานด้านวิทยาศาสตร์ผ่านนิทรรศการ และการแสดงผลงานวิจัยที่แสดงถึงศักยภาพของคนไทยมาจัดแสดงให้ประชาชนได้เห็นเพื่อให้มีการซื้อขายกัน ตลอดจนเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้แลกเปลี่ยนความรู้ใหม่ ๆ เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจ BCG Model และนำผลงานวิจัยจะได้ไปพัฒนาต่อยอดสู่สังคมได้มากยิ่งขึ้นต่อไป” ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าว
เผยแพร่ข่าว : นายปวีณ ควรแย้ม
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3972 โทรสาร 0 2333 3834
e-mail :
pr@mhesi.go.thFacebook : @MHESIThailand
Twiiter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313