"อว. เผยฉีดวัคซีนทั่วโลกแล้ว 1,815 ล้านโดส ใน 197 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 50.526 ล้านโดส ไทยฉีดแล้วมากกว่า 3.5 ล้านโดส"
➡️(29 พฤษภาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 1,815 ล้านโดส ใน 197 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 30.9 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่าอิสราเอลได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมเกินครึ่งของประชากรแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 292 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 134 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 50.526 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (32.7% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 26.758 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 3,504,125 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 39.4%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 1,815 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 60% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 584.36 ล้านโดส (20.9% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. สหรัฐอเมริกา จำนวน 292.10 ล้านโดส (45.6%)
3. สหภาพยุโรป จำนวน 238.83 ล้านโดส (26.9%)
4. อินเดีย จำนวน 208.61 ล้านโดส (7.6%)
2. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (63.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm )
2. อิสราเอล (58.8% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (58.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
4. บาห์เรน (55.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
5. ชิลี (47.7%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
6. สหราชอาณาจักร (47.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
7. สหรัฐอเมริกา (45.6%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Johnson&Johnso
8. กาตาร์ (44.3%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech)
9. ฮังการี (43.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
10. อุรุกวัย (38.9%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer และ Sinovac)
3. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 54.78%
2. อเมริกาเหนือ 19.36%
3. ยุโรป 17.53%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.39%
5. แอฟริกา 1.68%
6. โอเชียเนีย 0.26%
4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 22,984,902 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 26,758,625 โดส (5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
2. ฟิลิปปินส์ จำนวน 4,495,375 โดส (2.0%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V และ AstraZeneca
3. กัมพูชา จำนวน 4,329,034 โดส (12.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
4. สิงคโปร์ จำนวน 3,728,869 โดส (32.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna
5. ไทย จำนวน 3,504,125 โดส (2.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
6. พม่า จำนวน 2,994,900 โดส (2.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
7. มาเลเซีย จำนวน 2,786,152 โดส (4.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
8. เวียดนาม จำนวน 1,038,741 โดส (0.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
9. ลาว จำนวน 856,542 โดส (5.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V
10. บรูไน จำนวน 33,850 โดส (3.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
5. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 28 พฤษภาคม 2564
จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 3,926,610 โดส
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 3,504,125 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 2,415,903 โดส
-เข็มสอง 1,088,222 โดส
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.