"อว. เผยฉีดวัคซีนทั่วโลกแล้ว 2,019 ล้านโดส ใน 197 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 54.942 ล้านโดส ไทยฉีดแล้วมากกว่า 3.961 ล้านโดส"
➡️(4 มิถุนายน 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 2,019 ล้านโดส ใน 197 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 36.4 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่าอิสราเอลได้ฉีดวัคซีนครอบคลุมเกินครึ่งของประชากรแล้ว ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 298 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 137 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 54.942 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (35.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 28.347 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 3,961,589 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 42.8%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 2,019 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 60% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 704.83 ล้านโดส (25.2% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. สหรัฐอเมริกา จำนวน 297.72 ล้านโดส (46.4%)
3. สหภาพยุโรป จำนวน 254.29 ล้านโดส (28.6%)
4. อินเดีย จำนวน 223.73 ล้านโดส (8.2%)
2. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (64.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford และ Sinopharm )
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (61.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
3. บาห์เรน (59.1%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. อิสราเอล (58.5% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
5. ชิลี (50%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
6. สหราชอาณาจักร (49.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
7. กาตาร์ (46.9%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech)
8. สหรัฐอเมริกา (46.4%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Johnson&Johnso
9. ฮังการี (45.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
10. อุรุกวัย (41.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer และ Sinovac)
3. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 56.82%
2. อเมริกาเหนือ 18.06%
3. ยุโรป 16.95%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.21%
5. แอฟริกา 1.69%
6. โอเชียเนีย 0.27%
4. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 52,102,147 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 28,347,058 โดส (5.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
2. ฟิลิปปินส์ จำนวน 5,382,172 โดส (2.4%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V และ AstraZeneca
3. กัมพูชา จำนวน 4,782,587 โดส (14.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
4. สิงคโปร์ จำนวน 4,047,651 โดส (35.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer และ Moderna
5. ไทย จำนวน 3,961,589 โดส (3.0%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac และ AstraZeneca
6. มาเลเซีย จำนวน 3,330,436 โดส (5.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
7. พม่า จำนวน 2,994,900 โดส (2.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
8. เวียดนาม จำนวน 1,110,111 โดส (0.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca
9. ลาว จำนวน 933,505 โดส (6.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V
10. บรูไน จำนวน 52,775 โดส (6.0%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
5. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2564
จัดสรรวัคซีนแล้วทั้งหมด 5,008,369 โดส
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 3,961,589 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 2,727,759 โดส (4.12% ของประชากร)
-เข็มสอง 1,233,830 โดส (1.86% ของประชากร)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.