"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 14 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 23,192,491 โดส และทั่วโลกแล้ว 4,648 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 203.42 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ กรุงเทพฯ โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 76.2%”
➡️(14 สิงหาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 4,648 ล้านโดส ใน 203 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 38.3 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 355 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 168 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"
ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 203.42 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (76.2% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 82.21 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 23,192,491โดส โดยฉีดให้กับประชาชนมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 54.42%
? ในการฉีดวัคซีน จำนวน 4,648 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ
1. ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 14 สิงหาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 23,192,491 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 17,696,114 โดส (26.7% ของประชากร)
-เข็มสอง 5,033,568 โดส (7.6% ของประชากร)
-เข็มสาม 462,809 โดส (0.7% ของประชากร)
2. อัตราการฉีดวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 14 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 23,192,491 โดส ฉีดเพิ่มขึ้น 683,832 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 416,055 โดส/วัน
3. อัตราการฉีดวัคซีน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 7,624,361 โดส
- เข็มที่ 2 3,446,054 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 8,710,084 โดส
- เข็มที่ 2 1,036,461 โดส
- เข็มที่ 3 193,894 โดส
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 1,309,754 โดส
- เข็มที่ 2 529,199 โดส
- เข็มที่ 3 0 โดส
วัคซีน Pfizer
- เข็มที่ 1 51,915 โดส
- เข็มที่ 2 21,854 โดส
- เข็มที่ 3 268,915 โดส
4. การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 119.5% เข็มที่2 102.9% เข็มที่3 65.2%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 51.2% เข็มที่2 30.8% เข็มที่3 0%
- อสม เข็มที่1 56% เข็มที่2 25.5% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 36.5% เข็มที่1 6.5% เข็มที่3 0%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 32.5% เข็มที่2 9.5% เข็มที่3 0%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 34.1% เข็มที่2 2.7% เข็มที่3 0%
- หญิงตั้งครรภ์ เข็มที่1 1.8% เข็มที่2 0.1% เข็มที่3 0%
รวม เข็มที่1 35.4% เข็มที่2 10.1% เข็มที่3 0.9%
5. จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 55.1% เข็มที่2 12.8% เข็มที่3 0.9% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 76.2% เข็มที่2 16.5% เข็มที่3 1.3%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 34.8% เข็มที่2 13.7% เข็มที่3 0.5%
- นนทบุรี เข็มที่1 36.2% เข็มที่2 11.9% เข็มที่3 0.6%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 35.8% เข็มที่2 7.1% เข็มที่3 0.4%
- ปทุมธานี เข็มที่1 31.2% เข็มที่2 7% เข็มที่3 0.4%
- นครปฐม เข็มที่1 20.7% เข็มที่2 5.2% เข็มที่3 0.5%
จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 16.6% เข็มที่2 5.5% เข็มที่3 0.6%
- ชลบุรี เข็มที่1 28.5% เข็มที่2 9% เข็มที่3 0.9%
- พระนครศรีอยุธยา เข็มที่1 16.5% เข็มที่2 4.2% เข็มที่3 0.4%
- สงขลา เข็มที่1 22.6% เข็มที่2 7.3% เข็มที่3 1%
- ยะลา เข็มที่1 26.2% เข็มที่2 7.8% เข็มที่3 0.6%
- ปัตตานี เข็มที่1 19.5% เข็มที่2 6.1% เข็มที่3 0.4%
- ฉะเชิงเทรา เข็มที่1 38.5% เข็มที่2 5.4% เข็มที่3 0.6%
6. ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 203,421,969โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 82,215,031 โดส (19.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca, Moderna และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 26,851,765 โดส (51.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 26,127,502 โดส (12.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna, J&J และ AstraZeneca
4. ไทย จำนวน 23,192,491 โดส (26.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 15,884,810 โดส (55.1%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca, J&J และ Sinovac
6. เวียดนาม จำนวน 13,772,920 โดส (12.8%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca, Pfizer, Moderna และ Sinopharm
7. สิงคโปร์ จำนวน 8,557,537 โดส (76.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
8. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 3,118,472 โดส (22.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V, Pfizer, J&J, Sinovac และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 201,441 โดส (35.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ
7. จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 66.59%
2. อเมริกาเหนือ 11.24%
3. ยุโรป 13.53%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.51%
5. แอฟริกา 1.74%
6. โอเชียเนีย 0.39%
8. ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 5 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 1,832.45 ล้านโดส (65.4% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 529.58 ล้านโดส (19.4%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 354.78 ล้านโดส (55.5%)
4. บราซิล จำนวน 160,06 ล้านโดส (39.1%)
5. ญี่ปุ่น จำนวน 108.18 ล้านโดส (42.9%)
9. ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (85.2% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. บาห์เรน (80.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
3. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (80.5%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)
4. สิงคโปร์ (76.2%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
5. กาตาร์ (72.8%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
6. อุรุกวัย (71.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. ชิลี (69.6%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
8. เดนมาร์ก (69.1%) (ฉีดวัคซีนของ Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)
9. ภูฏาน (68.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Moderna)
10. แคนาดา (68.3%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)
แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
ที่มาข้อมูล : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
เผยแพร่โดย : นางสาวสุวดี เหมือนอ้น
กลุ่มสื่อสารองค์กร กองกลาง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โทรศัพท์ 0 2333 3700 ต่อ 3880 โทรสาร 0 2333 3834
Facebook : @MHESIThailand
Twitter : @MHESIThailand
Call Center โทร.1313
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นเพื่อขับเคลื่อนการอุดมศึกษาไทย วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ไปสู่มาตรฐานในระดับสากล และเพิ่มอันดับความสามารถการแข่งขันในระดับนานาชาติอย่างยั่งยืน ไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหากำไร หากท่านพบว่ามีข้อมูลใดๆ ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาปรากฏอยู่ในเว็บไซต์นี้ โปรดแจ้งให้ทราบ เพื่อดำเนินการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็วที่สุดต่อไป
© 2020 Ministry of Higher Education, Science, Research and Innovation. ALL RIGHTS RESERVED.